รูดม่าน 5 ปี “250 สว.” ตั้ง 2 นายกฯ แถมโหวตคว่ำดับฝันขวัญใจด้อมส้ม

ปิดฉาก 5 ปี “250 สว.” ผ่านร้อนผ่านหนาวมากมาย เผยตั้งนายกฯสองคนทั้ง “ลุงตู่ –เศรษฐา” แถมโหวตคว่ำดับฝันขวัญใจด้อมส้ม “พิธา ลิ้เจริญรัตน์” ชวดเป็นนายกฯ เผย 5 ปี ผ่านกฎหมายสำคัญมากมาย

รูดม่าน 5 ปี “250 สว.” ตั้ง 2 นายกฯ แถมโหวตคว่ำดับฝันขวัญใจด้อมส้ม – Top News รายงาน

เที่ยงคืนวันที่ 10 พฤษภาคมจะถือเป็นหนึ่งประวัติศาสตร์หน้าการเมืองไทย เพราะวาระของสมาชิกวุฒิสภา หรือ “สว.” ชุดที่ 12 จะ สิ้นสุดวาระลงอย่างเป็นทางการหลังจากดำรงตำแหน่งครบ 5 ปี ทั้งนี้ สว. ชุดดังกล่าวถือกำเนิดมาจากบทเฉพาะกาล ของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 269 ที่แต่งตั้งโดย “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ( คสช.) ซึ่งตลอดเวลาของการดำรงค์คงอยู่ของ สว.250 คนจะถูกคนบางกลุ่มครหาว่าเป็น “สว. คสช.”

อย่างไรก็ตามแม้วาระของ สว. ชุดที่ 12 จะสิ้นสุดลง แต่รัฐธรรมนูญกำหนดให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่ามีสว.ใหม่ นั่นเท่ากับว่า “สว.ทั้ง 250 คน ยังคงมีหน้าที่ตามอำนาจที่รัฐธรรมนูญ 2560 บทหลักกำหนดไว้ได้ทุกประการ นั่นคือ การตรากฎหมาย-ตรวจสอบรัฐบาล-งานในกรรมาธิการ-เห็นชอบองค์กรอิสระ ยกเว้นเรื่องเดียว คือ “การร่วมโหวตนายกฯ” ในที่ประชุมรัฐสภา ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ

สำหรับการทำหน้าที่ของ สว. ชุดดังกล่าวมีมากมายหลายเรื่อง แต่สิ่งที่ทำให้คนจดจำ คือการร่วมเลือก “นายกรัฐมนตรี” มาแล้ว 2 คน คือ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562 ที่ประชุมร่วมรัฐสภา (ส.ส.+ส.ว.) มีมติ 500 ต่อ 244 เสียง เห็นชอบ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯ คนที่ 29 ในสมัยที่ 2 โดยมีเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ท่วมท้น ไม่มีแตกแถว 249 เสียง มีเพียงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา คนเดียวที่งดออกเสียง เพราะทำหน้าที่ประธานที่ประชุม

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนนายกฯคนที่สอง คือ นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกฯจากพรรคเพื่อไทย โดยเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 รัฐสภามีมติ 482 ต่อ 165 เสียงเห็นชอบ ให้นายเศรษฐา แคนดิเดตนายกฯ จากบัญชีของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ คนที่ 30 โดยมี ส.ว.โหวตเห็นชอบ 152 เสียง ไม่เห็นชอบ 13 เสียง และงดออกเสียง 68 เสียง

นายกฯ

ขณะเดียวกัน สว.ชุดดังกล่าวยังได้โหวตคว่ำการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีอีก 1 คน คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล โดยเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 รัฐสภามีมติ ไม่เห็นชอบให้นายพิธา ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 ด้วยคะแนนเห็นชอบ 324 ต่อ 182 งดออกเสียง 199 เสียง มี ส.ว. เพียง 13 คนเท่านั้นที่โหวตให้ มี ส.ว. 159 คน งดออกเสียง ส.ว.ขาดประชุม-ไม่มาลงคะแนน 43 คน และ ไม่เห็นชอบ 34 คน

นอกจากนี้ สว.ชุดดังกล่าวยังมีบทบาทในการไม่ยินยอมให้แก้ “รัฐธรรมนูญ 2560” จากที่ภาคประชาสังคม และพรรคการเมือง ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาถึง 20 ฉบับ พบว่า ผ่านเพียง 1 ฉบับว่าด้วยการแก้ไขกติกาเลือกตั้ง ส่วนอีก 18 ฉบับไม่ผ่านความเห็นชอบของ สว. เพราะกลไกรัฐธรรมนูญออกแบบให้เสียงสว.มีน้ำหนักชี้วัดว่า “รัฐธรรมนูญ” ฉบับแก้ไขใดจะผ่านด้วยเกณฑ์ ต้องได้รับความเห็นชอบจาก สว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3
ขณะที่อีก 1 ฉบับ ว่าด้วยการออกแบบกลไกยกร่างรัฐธรรมนูญ ด้วย “สภาร่างรัฐธรรมนูญ” (สสร.) ยังอยู่ไม่เป็นที่แน่ชัด เนื่องจากมีการยื่นเรื่องตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญ

สำหรับบทบาททำงานของ สว. ชุดดังกล่าวในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา นายพรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานวุฒิสภา แถลงต่อที่ประชุมในวันสุดท้ายของสมัยประชุมว่า ใช้เวลาประชุมรวม 1,579 ชั่วโมง 55 นาที โดยผ่านร่างกฎหมาย 53 ฉบับ แบ่งเป็น สว.เห็นด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร 37 ฉบับ วุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติม และสส.เห็นชอบด้วย 10 ฉบับ สว.-สส.เห็นชอบด้วยร่วมกันผ่านคณะกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นระหว่าง 2 สภาฯ จำนวน 4 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ 2 ฉบับ และตกไป 1 ฉบับ และอนุมัติพระราชกำหนด 14 ฉบับ
ขณะที่ผลงานการตรวจสอบรัฐบาล ผ่านการตั้งกระทู้ และการอภิปรายทั่วไป พบว่า สว.ตั้งกระทู้ถามรัฐบาล ตลอด 5 ปี จำนวน 488 กระทู้ โดย สว.ชุดที่ 12 ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจารวม 167 กระทู้ รัฐบาลมาตอบ 59 กระทู้ ที่เหลือ 108 กระทู้ต้องตกไปตามข้อบังคับ นอกจากนั้น ยังมีการตรวจสอบรัฐบาลผ่านการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หนึ่งครั้งในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน

นอกจากนี้พิจารณาเลือกหรือให้ความเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นกำหนด 58 ครั้ง และเห็นชอบบุคคลในส่วนของ “กรรมการองค์กรอิสระ” มีการเสนอชื่อบุคคลให้ สว. เห็นชอบจำนวนมาก ซึ่ง สว.เห็นชอบไปเพียง 24 คน แบ่งเป็น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 คน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 6 คน กรรมการสิทธิมนุษยชน 5 คน กรรมการการเลือกตั้ง 2 คน ผู้ตรวจการแผ่นดิน 2 คน กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน 1 คนและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน 1 คน
นี่คือบทบาทของ 250 สว.ช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และแม้ว่าวันนี้จะครบวาระ 5 ปีแล้ว แต่จากในความเป็นจริง สว.ชุดนี้ยังมีอำนาจเต็มรัฐธรรมนูญบัญญัติไปจนกว่าจะมี “สว.ชุดใหม่” จะถือกำเนิด โดยกกต.จะเปิดรับใบสมัคร ส.ว.ทั่วประเทศ ในวันที่ 10 พ.ค.นี้ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น