“รัฐบาล” ฝ่าดงกับระเบิด กระชากค่าแรง 400 ทุบนายจ้าง กลบเกลื่อนคดีจำนำข้าว ปรับครม.จบไม่สวย

กลบคดีจำนำข้าวปูทาง “นายหญิงคนแดนไกล” กลับมา

อีกกับระเบิดที่รัฐบาลต้องเดินฝ่าไปให้ได้ คือ ทนเสียงก่นด่าจากกระแสดราม่าถล่มรัฐบาล ล็อกเป้านิ่งไปยัง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี ควบกระทรวงพาณิชย์ เจ้ากระทรวงที่คุมโกดังข้าวในโครงการจำนำข้าวเมื่อปี 2557 ที่กำลังถูกเย้ยหยัน เพราะดันไปเอาข้าวเก่าเก็บ 10 ปี สารเคมีเจือปนมาเทขายล้างสต็อก 1.5 หมื่นตัน คุยฟุ้งว่าออเดอร์เพียบเตรียมส่งออกไป “แอฟริกา” เท่านั้นยังไม่พอเหมือนเขี่ยลูกเข้าเท้าฝ่ายแค้นที่เป็นคู่ปรับเก่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ออกมาชำแหละ ว่าเป็นการกลบคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว ต้นเหตุทำให้กลายเป็น “นายหญิงคนแดนไกล” ใช่หรือไม่

มิหนำซ้ำยังแขวะไปถึง “สุทิน คลังแสง” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เบรกไอเดียบรรเจิดที่จะนำข้าวเก่า10ปี ซาวน้ำ 15 ครั้ง เพราะรมยากันมอดแมลง 60 รอบแต่ยังกินได้ ไปให้ “พลทหาร” หรือ “นักโทษ” กินอำมหิตไปหรือไม่ แม้เจ้าตัว “รมว.กลาโหม” จะปฏิเสธประเด็นเดือดดังกล่าว ว่าเป็นการบิดเบือนโจมตี แต่คงไม่ทันการณ์ บรรดาฝ่ายแค้นเอาไปขยี้รัฐบาล ข้อหาเอาข้าวที่มีสารตกค้างก่อมะเร็ง และข้าวไร้คุณค่าทางอาหารไปเร่ขาย จะทำให้ข้าวไทยที่ขึ้นแท่นเป็นแชมป์เปี้ยนต้องไปอยู่ท้ายแถวในตลาดค้าข้าวโลก คนที่รับกรรมคือชาวนาเกษตรกรไทยจะขายข้าวไม่ออก เพียงเพื่อช่วยฟอกขาวคดีจำนำข้าวปูทางให้ “นายหญิงคนแดนไกล” กลับมา ใช่หรือไม่

“พท.” คุม “กระทรวงการคลัง” เบ็ดเสร็จสมใจอยาก

แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คุมกระทรวงการคลังสมใจอยาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยมีรอยแผลบาดหมางกับพรรครวมไทยสร้างชาติ จากเอฟเฟ็กต์ “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯควบ ขุนคลัง 1 แบ่งงานไม่แฟร์ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง ทำเอา “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” นอยด์ชิงลาออกทิ้งบอมบ์ให้ “นายกฯเศรษฐา” ต้องไปหารัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาแทน แต่ที่น่าปวดหัวไปกว่านั้น เพราะรู้กันทั่วว่า “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” สายตรงนายทุนพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจมองได้ว่าเป็นแผนซ้อนแผนที่ “พรรคเพื่อไทย” ต้องการเล่นเกมบีบให้ “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ลาออกไปเอง ด้วยการหั่นอำนาจในกระทรวงการคลังจนเกลี้ยงให้คุมหน่วยงานรัฐเพียงองค์กรเดียว ดึง กรม หรือ หน่วยงานสำคัญระดับเกรด A ไปอยู่ในมือรัฐมนตรีโควตาตัวเองจนหมด เพราะก่อนหน้านี้เคลียร์กันไม่ลงตัวกับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯ ควบกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงทำให้ปรับครม.เศรษฐา 1/1 จบไม่สวย

เพราะก่อนปรับครม.”พรรคเพื่อไทย” ต่อรองแล้วว่า ขอคุมกระทรวงการคลังเองแบบเบ็ดเสร็จไม่ต้องมี รัฐมนตรีจากพรรคอื่นมาคอยขัดแข้งขัดขา เพราะต้องการเร่งปั้นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท ที่ต้องทำทุกทางเพื่อแจกเงินให้กับประชาชนได้จริงในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แม้จะต้องแตกหักกับ “บิ๊กเนมพรรครวมไทยสร้างชาติ” ก็ยอม ถึงขนาดยอมแลกเก้าอี้กระทรวงอื่นประเคนให้

จึงต้องรอดูว่า อีกไม่กี่วัน “พีระพันธุ์” จะส่งชื่อใครเป็นรัฐมนตรีช่วย แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่กระทรวงการคลังแน่นอน อาจตกไปที่ “รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม” นั้นคือ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ คนใกล้ชิด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ถูกเปลี่ยนตัว รัฐมนตรีกลาโหม นาทีสุดท้าย กลับไปให้ “สุทิน คลังแสง” ได้ไปต่อ ใช่หรือไม่

ไล่ตั้งแต่รัฐบาลต้องการเอาใจลูกจ้างกระชากค่าแรง 400บาทหักคอนายจ้าง , ตั้งธงล้างสต็อกข้าว 10 ปีกลบเกลื่อนคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวปูทางนายหญิงคนแดนไกลกลับบ้าน หรือ ปรับครม.เศรษฐา 1/1 ยังจบไม่สวยสะเทือนสัมพันธพรรคร่วม รัฐบาลจะฝ่าดงกับระเบิดเหล่านี้ไปได้หรือไม่ ต้องจับตามองอย่ากระพริบตา