ล่าสุด “สันติสุข มะโรงศรี” หนึ่งในผู้ประกาศ ท็อปนิวส์ ออกมาแสดงความเห็นกรณีที่เกิดขึ้น ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุใจความสำคัญว่า ” คุยยาวนิดนึงนะครับ ชงกาแฟก่อนค่อยอ่านก็ได้ครับ…
พี่กนก พี่ธีระ ทำงานสื่อมาไม่ต่ำกว่า 30-40 ปี จุดยืนเคยเป็นยังไง ก็ยังเป็นอย่างนั้น มุมมองต่อบ้านเมืองก็มีความคิดเห็นเป็นตัวของตัวเองนะครับ
ผมทำงานสื่อ ทำอะไรมา ก็เกือบ 20 ปีแล้ว ก็คิดอ่านต่อบ้านเมือง ผ่านข้อมูลและความคิดแบบของผมเอง สู้อะไรมาก็เยอะ ท่านที่ชอบก็ให้กำลังใจกันมาด้วยดีตลอดครับ
ผู้บริหาร และเพื่อนพ้องน้องพี่ Top News ไม่มีใครคิดอ่าน ชอบ-ไม่ชอบ เหมือนกัน 100% ไม่มีหรอกครับ แต่ภาพรวมจนถึงปัจจุบัน ผมยืนยันว่า พวกเรามองบ้านเมือง และเลือกเดินไปในทิศทางเดียวกันแน่นอนครับ
สิ่งที่ท่านที่เคารพหลายท่านอาจจะไม่ทราบ บางท่านอาจจะได้ยิน “เขาเล่าว่า” หรือ “เขาแชร์ต่อมาว่า” หรือแม้แต่ “รู้สึกว่า” ในทำนองว่า พวกเรา Top News เปลี่ยนไปบ้าง ขายอุดมการณ์กินแล้วบ้าง รวยแล้ว-สบายแล้วบ้าง ฯลฯ
แต่ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ คือ เราต้องดิ้นรนทำงานหนักขนาดไหน เพื่ออยู่รอด ได้ทำหน้าที่ในพื้นที่ของเราตรงนี้ต่อไป เราพยายามลดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
เรามีของมาขาย เรามีทัวร์ เรายินดีที่มีคนมาซื้อเวลาขายของ ซื้อเวลาโฆษณา เพื่อทำให้เรามีรายได้ เพียงพอที่จะจุนเจือรายจ่ายของการทำสถานีโทรทัศน์ต่อไป
เราไม่เคยออกปากขอรับบริจาค เพราะเรา
ไม่เคยสำคัญตัวว่ายิ่งใหญ่จำเป็นอะไรขนาดนั้น (มูลนิธิไม่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของบริษัทเลยนะครับ)
ช่วงหลัง จะด้วยเหตุใดก็ตาม พวกเรา Top News ถูกกล่าวหา ถูกจับผิด บ่อยครั้งครับ
ไม่ว่าจะเปลี่ยนโลโก้, ปรับผังรายการ (ข่าวหลักๆยังอยู่เหมือนเดิม), พอมีคนลาออกไป คนที่ยังอยู่ก็ถูกด้อยค่าราวกับไม่เหลือคุณค่าอะไรแล้ว, ออกข่าวรัฐบาลผู้บริหารประเทศเพื่อให้รู้ว่าผู้มีอำนาจเขาคิดอ่านทำอะไร หรือแม้แต่เรื่ิองดีเบตล่าสุด ก็มีคนบางกลุ่มจับผิด และรุมขย้ำ นำไปปั่นขยายความเลยเถิด เหยียบย่ำกันไปไกลอย่างเหลือเชื่อ
ผมแค่จะบอกว่า ระหว่างที่มีเรื่องพวกนี้ คนอย่างพี่กนก พี่ธีระ หรือผม ฯลฯ เราก็ยังทำงานของเราต่อไป เคารพในการตัดสินใจของท่านผู้ชม รักและให้เกียรติเสมอ
เราล้วนแต่มีความคิดอ่าน เป็นตัวของตัวเอง แต่เราทำหน้าที่สื่อ เราไม่เคยใช้พื้นช่องเพื่อระบายอารมณ์ส่วนตัว หรือเจตนาปั่นกระแสด้วยข่าวลือที่ไม่มีหลักฐานอ้างอิงเพียงเพื่อล่อหลอกให้คนติดตาม เพราะเรารักและให้เกียรติคนดูของเรา เกินกว่าจะขายความสะใจ