รู้ตัวแล้ว มือยิง” ดาบตำรวจ-เมียท้อง” ทิ้งศพอำพรางป่าปราจีนบุรี ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ ยันไร้เอี่ยวแก๊งค้าน้ำมันเถื่อน

ความคืบหน้าทางคดีล่าสุด ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2 และตำรวจสืบสวน สภ. ระเบาะไผ่ ควบคุมตัว ผู้เห็นเหตุการณ์ 2 คน มาสอบสวนขยายผล จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.สกล บรรลุ หรือดาบโก้ ผู้บังคับหมู่กองกำกับการสืบสวน สอบสวน ภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และนางจันสอน พลเยี่ยม อายุ 25 ปี ภรรยาชาวลาว ท้อง 6 เดือน คือ นายชัยวิชิต ภู่มาลา (หลบหนี) จึงได้ขยายผล ตรวจยึด อาวุธปืนยาวเอเค 47 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน อาวุธปืนพกสั้นขนาด. 357 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน ลูกระเบิดขว้างสังหาร จำนวน 1 ลูก อาวุธปืนยาวอัดลม จำนวน 2 กระบอก ตรวจยึดได้บริเวณป่าหลังบ้านของนายชัยวิชิต

โดยบุคคลทั้งสองให้การว่า ในขณะที่ตนเอง และนายชัยวิชิต กำลังซื้อน้ำมันอยู่บริเวณป่าริมถนน ได้มีด.ต.สกล พร้อมภรรยา เข้ามาที่เกิดเหตุ โดยนายชัยวิชิต และ ด.ต.สกล มีปากเสียงกับน ก่อนที่นายชัยวิชิต จะใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.สกล และภรรยา เสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งพร้อมกับรถ ในป่าห่างจากจุดยิงประมาณ 3 กิโลเมตร

ขณะเดียวกัน วันนี้ นางแก่นจันทร์ พลเยี่ยม อายุ 53 ปี และ นายคำภู พลเยี่ยม อายุ 60 ปี แม่และพ่อของ นางจันสอน ภรรยาดาบโก้ พร้อมญาติได้เดินทางมาที่ สภ.ระเบาะไผ่ เพื่อพบกับพนักงานสอบสวน พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า เพื่อนโทรบอกว่าดาบโก้ถูกยิง โดยไม่ได้บอกว่าลูกสาวถูกยิง แต่ไม่เห็นลูกสาวแม่ จากนั้นเพื่อนก็ได้โทรมาบอกว่า ลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ซึ่งแม่ก็คิดว่าลูกสาวอาจเสียชีวิต เพราะลูกจะไปไหนมาไหนกับแฟนเขาตลอด หลังทราบเรื่องได้เดินทางมาจากเวียงจันทน์สปป.ลาว เวลาประมาณ 16.00 น. มาถึง จ.หนองคาย ประมาณ 20.00 น. และนั่งรถจาก จ.หนองคาย มาต่อรถที่ จ.นครราชสีมา เพื่อมาที่จ.ปราจีนบุรี

ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุ ทราบเพียงว่า ลูกเขยเป็นตำรวจแต่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรบ้าง ทั้งนี้ขอให้ตำรวจ สามารถจับตัวคนร้ายได้โดยเร็ว อยากรู้เหมือนกันว่าทำได้อย่างไร

พ.ต.อ. สุรพร เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก มีตำรวจที่เคยประจำอยู่ที่ สภ.ระเบาะไผ่ และย้ายกลับไปที่จังหวัดอำนาจเจริญ ในวันเกิดเหตุเขาแยกจากเพื่อนที่กรอกสมบูรณ์ เพื่อไปทานอาหาร ระหว่างทางคงเจอลักษณะเหมือนรถมีการดูดถ่ายน้ำมันกัน ตรงนี้ก็ขอชื่นชมเขาด้วย เขาก็ลงไปตรวจสอบ ระหว่างที่ลงไปตรวจสอบเขาก็ให้ภรรยา โทร(ไลน์)หาตำรวจที่เขาสนิทแจ้งว่ามีเหตุลักษณะนี้อยู่ พร้อมส่งโลเคชั่นให้ หลังจากได้รับแจ้งจากภรรยาไม่เกิน 10 นาที เพื่อนก็เดินทางไปตามโลเคชั่น แต่โลเคชั่นที่ส่งไปในพื้นที่ค่อนข้างจะไม่ตรง ก็เลยหาจุดไม่เจอ หลังจากนั้นก็รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก็คิดว่าน่าจะมีเหตุ ปกติตัวเขาจะไม่ปิดโทรศัพท์ จะติดต่อได้ตลอด

ทั้งนี้ยืนยันว่า ดาบตำรวจที่เสียชีวิต ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หรือกระทำผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจน้ำมันเถื่อน เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาย้ายไปแล้ว 2-3 ปี อีกส่วนหนึ่งก็ต้องชื่นชมเขา ถึงแม้ไม่ใช่ตำรวจในพื้นที่ แต่ผ่านมาเจอ ก็ยังมีจิตวิญญาณของความเป็นตำรวจ เข้าไปตรวจสอบ และแจ้งให้เพื่อนตำรวจที่เขาสนิทได้รับทราบ ส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้