จำคุกเพิ่ม 4 ปี "อาเล็ก โชคดี" ร้องเพลงปลุกม็อบ 3 นิ้ว หมิ่นใส่ร้ายสถาบันฯ
ข่าวที่น่าสนใจ
คดีนี้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 บรรยายฟ้องใจความโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 จําเลยกับจำเลยในอีกคดีของศาลนี้ ได้ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ด้วยการร่วมกันร้องเพลง เล่นดนตรี และเต้นรํา โดยมีการถอดความเนื้อเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” และเพลง “ใครฆ่า ร.8” บางส่วนมาประกอบการบรรยายฟ้อง การร้องเพลงดังกล่าวน่าจะทําให้รัชกาลที่ 10 และรัชกาลที่ 9 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยจําเลยกับพวกมีเจตนาทําลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนชาวไทย ทําให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้
โดยศาลพิพากษาว่า นายโชคดีมีความผิด ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) โดยข้อหา ม.112 ให้จำคุก 3 ปี ส่วน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ให้จำคุก 1 ปี แต่ให้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เนื่องจากรับสารภาพ คงเหลือจำคุกรวม 1 ปี 12 เดือน และให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
คดีนี้ยังมี วรัณยา แซ่ง้อ หรือ “นุ้ย” ได้ถูกตำรวจจับกุมและดำเนินคดีที่ สน.พญาไท มาก่อนแล้ว จากการร้องเพลง 2 เพลงของวงไฟเย็นในกิจกรรมดังกล่าว โดยอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาไปแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 อยู่ระหว่างรอการสืบพยานในช่วงต้นปี 2567 โดยโชคดีเป็นรายที่สองที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากการร่วมทำกิจกรรมดังกล่าว
นอกจากนี้ มีศิลปิน นักข่าวอิสระ และผู้ชุมนุมถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากการร้องหรือเล่นดนตรีเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” ของวงไฟเย็น ในการชุมนุมครั้งต่างๆ ถึง 5 คน รวม 5 คดี ได้แก่ คดีของวรัณยา, คดีของวรินทร์ทิพย์, คดีของโชคดี 2 คดี และคดีของขุนแผน-มานี โดยมีทั้งประชาชน “กลุ่มปกป้องสถาบันฯ” และตำรวจเป็นผู้กล่าวหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง