ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุด ตำรวจสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 4 รายได้แล้ว โดยสามารถควบคุมตัวได้ที่รอยต่อระหว่างจังหวัดนครนายก-สระบุรี ทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี โดย นายชัยวิชิต ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนยิง ด.ต.สกล และภรรยา เสียชีวิต
ส่วนหาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนว่า มีส่วนพัวพันกับขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนหรือไม่ แต่เบื้องต้น ยืนยันว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน แต่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นซึ่งหน้า เนื่องจากวันเกิดเหตุ ด.ต.สกล ตั้งใจมาหาเพื่อน และแวะทักทายที่ป้อมตำรวจ แต่ระหว่างออกไปกินข้าวข้างนอก เจอกลุ่มคนร้าย 4 คน กำลังลักลอบขนถ่ายน้ำมันเถื่อนไปขาย จึงเข้าไปสอบถามกลุ่มผู้ต้องหาว่า ทำอะไรกัน และแสดงตัวเป็นตำรวจ ก่อนจะมีปากเสียงกับ นายชัยวิชิต จากนั้น นายชัยวิชิต ได้ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.สกล เสียชีวิต ส่วนภรรยาของ ด.ต.สกล ที่ท้อง 6 เดือน กำลังจะขับรถหนี แต่ก็ถูก นายชัยวิชิต ยิงเสียชีวิตเช่นกัน จากนั้น นายชัยวิชิต ได้นำศพ พร้อมกับรถกระบะ ไปทิ้งในป่าห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร
อีกทั้งตำรวจได้ทำการค้นบ้านพักของผู้ต้องหาที่เป็นมือปืน พบอาวุธปืนยาวเอเค 47 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน / อาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม., ระเบิดขว้าง 1 ลูก, อาวุธปืนยาวอัดลม 2 กระบอก โดยตรวจยึดได้บริเวณป่าหลังบ้านของ นายชัยวิชิต
ขณะเดียวกัน วันที่ 13 พ.ค.2567 พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีด้วยตัวเอง พร้อมกับยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ในพื้นที่พบขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน และมีการจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีไม่มากนัก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวเชื่อว่า ด.ต.สกล นั้น เป็นคนดี มีนิสัยตรงไปตรงมา ก่อนจะขอย้ายอยู่ จ.อำนาจเจริญ ได้ 2 ปี แต่ก็มักจะกลับมาหาเพื่อนที่ จ.ปราจีนบุรี อยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายวันที่ 14พ.ค.2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาติดตามคดีที่ สภ.ระเบาะไผ่ และจะมีการแถลงสรุปคดีดังกล่าวที่เกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
