logo

หัวอกพ่อสุดช้ำ ลูกชายโดนรุ่นพี่ ม.2 รุมทำร้าย ไฟแช็คจี้คอ ทำเครียดอยากย้ายโรงเรียน

หัวอกพ่อแม่สุดช้ำ ลูกชายโดนรุ่นพี่ ม.2 รุมทำร้าย ไฟแช็คจี้คอ ทำเครียดอยากย้ายโรงเรียน

Top news รายงาน เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจ ‘กล้าที่จะก้าว’ พาพ่อ และ น้องฟอส ลูกชายวัย 13 ปี มาติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สน.ลุมพินี เนื่องจากลูกชายถูกรุ่นพี่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (อายุ 14 ปี) โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านสวนลุมพินี จำนวน 4 คน รุมทำร้ายร่างกาย จนทำให้ลูกชายหวาดระแวง เกิดความกลัว เก็บตัวอยู่ในห้องเพียงลำพังและขอให้คุณพ่อย้ายโรงเรียนไปเรียนที่ต่างจังหวัดแทน ลูกชายกลัวความไม่ปลอดภัยในการเล่าเรียนในสถานศึกษาเดิมอีกต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

น้องฟอส ผู้เสียหาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วง 6 โมงเย็น โดยตนนั่งเล่นอยู่บริเวณเกาะกลางของสวนลุมพินี หลังจากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้วิ่งมาถามตนว่า ‘มึงเป็น**วยอะไร’ และได้ต่อยหน้าตนจนหัวไปกระแทกกับเหล็กหลังจากนั้นก็ลากตนไปรุมทำร้าย ช่วงนั้นตนอยู่คนเดียว โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุมีกัน 4 คนและเคยรู้จักกันมาก่อนผ่านเพื่อน แต่อยู่กันคนละ รร. หลังจากตนได้ไปบวชกลับมาตนจึงเลิกยุ่งกับกลุ่มรุ่นพี่ผู้ก่อเหตุดังกล่าวเพราะนิสัยไม่ค่อยดี จึงเป็นเหตุทำให้กลุ่มรุ่นพี่ดังกล่าวไม่พอใจ ลงมือทำร้ายทั้งเตะต่อยเข้าที่หน้าและหัว ยังเอาไฟแช็กร้อนๆจี้ที่คอ จุดไฟที่กระเป๋าและบังคับให้เอามือลงไปในกระเป๋าที่ร้อนๆ โดยหลังจากที่เกิดเหตุตนมีความหวาดกลัวและหวาดระแวงวิตกกังวลจนไม่กล้าไปโรงเรียน เนื่องจากทางผ่านโรงเรียนจะเป็นบริเวณที่กลุ่มรุ่นพี่ผู้ก่อเหตุดังกล่าวอยู่กัน

 

 

ด้านนายจตุคุปต์ อายุ 50 ปี พ่อของผู้เสียหาย บอกว่า หลังจากที่ตนทราบเรื่องตนรู้สึกตกใจและเป็นห่วงลูกมากเพราะลูกก็ไม่ใช่คนเกเร ทำไมต้องมารังแกลูกขนาดนั้น โดยขณะที่เกิดเหตุตนทำงานอยู่ต่างจังหวัดอยากจะกลับมากรุงเทพมาดูลูกโดยเร็ว แต่ก็กลับมาไม่ได้เนื่องจากติดงานอยู่ จึงโทรหาแม่ของน้องและให้พาไปตรวจร่างกายและแจ้งความในวันเดียวกันกับวันเกิดเหตุ ทั้งนี้ตนได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับ สน.ลุมพินี แต่เนื่องจากกลัวลูกถูกทำร้ายจึงประสานกับเพจกล้าที่จะก้าว หลังจากเกิดเรื่องตนรู้สึกว่ารุ่นพี่กลุ่มนี้เหมือนไม่ใช่เด็กและทำตัวเป็นอันธพาลเกเร เกาะกลุ่มกันและมาทำร้ายลูกตนและยังเอาเงินของลูกชายไปด้วยเป็นจำนวนเงิน 140 บาท

ล่าสุด ทางผู้กำกับการ สน.ลุมพินี แจ้งว่า จะเตรียมแจ้ง 4 ข้อหา หลังจากสอบสวนอย่างละเอียด ได้แก่ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ,ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ,บังคับขู่เข็ญให้เกิดความกลัว ,และลักทรัพย์หรือร่วมกันชิงทรัพย์ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะแล้วเสร็จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครม.นัดพิเศษ แต่งตั้ง "หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์" นั่งเลขาธิการนายกฯ
ตามรวบ "สาวแสบมิจฉาชีพออนไลน์" ส่งลิ้งลวงเหยื่อ ขอคืนเงินค่า FT ก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี เสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
ททท.จัดต่อเนื่อง "Amazing Muay Thai Experiences" ตอกย้ำเสริมเสน่ห์ไทยด้วยกีฬา "มวยไทย" ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสประสบการณ์ถึงถิ่นกำเนิดมวยดี 4 สาย
จนท.บุกตรวจ "แรงงานต่างด้าว" 149 คน แอบเช่าบ้าน 2 หลังในชุมชนขอนแก่น เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
"วรชัย" วอน "เสรีพิศุทธ์" อย่าตั้งเป้าโจมตี ขอโอกาสรัฐบาลทำงาน ให้เวลาพิสูจน์แก้ปัญหาปชช.
“อ.ธรณ์” ห่วง “ฮาลองเบย์” สถานที่สวยงาม ถูกพายุไต้ฝุ่น "ยางิ" พัดถล่ม หวังให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย
ไร้ปาฏิหาริย์ พบแล้ว "นทท.เบลเยี่ยม" หลังหายตัวลึกลับ ทีมค้นหาพบร่าง บริเวณท้ายฝาย "น้ำตกแม่เย็น"
"พิพัฒน์" เดินหน้า 1 ต.ค. ปรับค่าแรง 400 พร้อม 7 มาตรการ ลดกระทบนายจ้าง-ลูกจ้าง ถกพณ.คุมสินค้าแพง
เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ตราดรับฟังสถานการณ์บริหารจัดการน้ำรับมือน้ำท่วมหลังพายุไต้ฝุ่นนางิ และ ฝนตกหนักกลางเดือนกันยายน หวั่นท่วมรอบ 2
น่าห่วง "แม่น้ำยม" สายหลักพิษณุโลก เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง ไหลท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำทุกหมู่บ้านแล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น