“อาจารย์อุ๋ย” แนะหากขายข้าวค้างโกดัง 10 ปี ต้องแปะฉลากชัดเจน ให้ผู้บริโภครับรู้ ตัดสินใจซื้อเอง

“อาจารย์อุ๋ย” แนะหากขายข้าวค้างโกดัง 10 ปี ต้องแปะฉลากชัดเจน ให้ผู้บริโภครับรู้ ตัดสินใจซื้อเอง

Top news รายงาน 14 พ.ค.2567 จากกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายจะนำข้าวจากโครงการจำนำข้าวที่เก็บอยู่ในโกดัง ซึ่งมีอายุกว่า 10 ปี ออกมาประมูลขาย ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คว่า “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 มาตรา 46 บัญญัติว่า สิทธิของผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครอง นอกจากนี้ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 4 กำหนดว่า ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และมีสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ

ข่าวที่น่าสนใจ

นายประพฤติ กล่าวอีกว่า ซึ่งสอดคล้องกับข้อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 70/186 ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค (United Nations General Assembly on Consumer Protection) ลงวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558 มีสมาชิกรับรองรับทราบกว่า 193 ประเทศ ซึ่งในภาคผนวก (Annex) ข้อ 3.5 กำหนดให้ผู้บริโภคมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจเลือกบริโภคสินค้าและบริการตามความต้องการของตัวเอง และต้องได้รับความคุ้มครองจากอันตรายใด ๆ ที่อาจเกิดกับสุขภาพของตน

นายประพฤติ กล่าวว่า ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการนำข้าวที่มีอายุกว่า 10 ปี ไปขาย ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือประเทศใด ๆ ในโลก ต้องมีการแสดงฉลากอย่างชัดเจนว่าเป็นข้าวที่มีอายุกว่า 10 ปี เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้รับทราบข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง และต้องมีการขอการรับรองจากหน่วยงานที่ดูแลด้านอาหารและสุขภาพของประเทศปลายทาง (คล้าย อ.ย.) เพื่อให้สามารถวางขายได้ และผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าข้าวดังกล่าวสามารถบริโภคได้โดยปราศจากอันตรายหรือผลกระทบใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของตนไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว

นายประพฤติ กล่าวว่า ตนจึงขอให้รัฐบาล พิจารณาให้ถ้วนถี่ ทั้งข้อกฎหมายภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ก่อนตัดสินใจนำข้าวล้อตนี้ออกจำหน่าย เพราะหากเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะในต่างประเทศ จะทำให้สิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำมาตลอด คือการออกเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ด้วยงบประมาณของรัฐ เพื่อชักชวนนักลงทุน และโปรโมทซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทย จะสูญเปล่า เพราะต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า และมาตรฐานของไทย”

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หม่องชิต ตู่" ส่งกำลังทหารกว่า 150 นาย คุมเข้มเคเคปาร์ค จับหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ กวาดต้อน 450 เหยื่อต่างชาติ
ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายลอบวางบึ้มหน้าร้านสะดวกซื้อ บันนังสตา ตร.เจ็บ 7 นาย-ชาวบ้านอีก 4 เช้านี้บึ้มรถยนต์อีก หน้าห้างสนามบินนราฯ
พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว
สธ.แจงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน "ค้างคาว" ยังไม่แพร่ระบาดสู่คน
“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต
"กรวีร์" ส่งหนังสือเชิญ "ธนดล" พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ชี้แจง กมธ.ปกครอง ปมที่ดิน สปก.เขาใหญ่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น