“อาจารย์อุ๋ย” แนะหากขายข้าวค้างโกดัง 10 ปี ต้องแปะฉลากชัดเจน ให้ผู้บริโภครับรู้ ตัดสินใจซื้อเอง
ข่าวที่น่าสนใจ
นายประพฤติ กล่าวอีกว่า ซึ่งสอดคล้องกับข้อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 70/186 ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค (United Nations General Assembly on Consumer Protection) ลงวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558 มีสมาชิกรับรองรับทราบกว่า 193 ประเทศ ซึ่งในภาคผนวก (Annex) ข้อ 3.5 กำหนดให้ผู้บริโภคมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจเลือกบริโภคสินค้าและบริการตามความต้องการของตัวเอง และต้องได้รับความคุ้มครองจากอันตรายใด ๆ ที่อาจเกิดกับสุขภาพของตน
นายประพฤติ กล่าวว่า ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการนำข้าวที่มีอายุกว่า 10 ปี ไปขาย ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือประเทศใด ๆ ในโลก ต้องมีการแสดงฉลากอย่างชัดเจนว่าเป็นข้าวที่มีอายุกว่า 10 ปี เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้รับทราบข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง และต้องมีการขอการรับรองจากหน่วยงานที่ดูแลด้านอาหารและสุขภาพของประเทศปลายทาง (คล้าย อ.ย.) เพื่อให้สามารถวางขายได้ และผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าข้าวดังกล่าวสามารถบริโภคได้โดยปราศจากอันตรายหรือผลกระทบใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของตนไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว
นายประพฤติ กล่าวว่า ตนจึงขอให้รัฐบาล พิจารณาให้ถ้วนถี่ ทั้งข้อกฎหมายภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ก่อนตัดสินใจนำข้าวล้อตนี้ออกจำหน่าย เพราะหากเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะในต่างประเทศ จะทำให้สิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำมาตลอด คือการออกเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ด้วยงบประมาณของรัฐ เพื่อชักชวนนักลงทุน และโปรโมทซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทย จะสูญเปล่า เพราะต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า และมาตรฐานของไทย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง