CBS และ AP รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่าสหรัฐจะประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนหลายประเภท มีทั้งรถยนต์อีวี, เซมิคอนดักเตอร์, แบตเตอรี่, แผงโซล่าร์เซล, เหล็กกล้าและอลูมิเนี่ยม แบบพุ่งทะยานในวันนี้ (อังคารที่ 14 พค.) โดยเฉพาะรถยนต์พลังไฟฟ้าหรือรถอีวี ที่จะปรับขึ้นถึง 4 เท่า เป็น 100 % จากเดิม 25%
นายเจค ซัลลีแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐเผยว่าการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหม่มีเป้าหมายเพื่อสกัดการทุ่มตลาดและการตัดราคาสินค้าของจีน ซึ่งสหรัฐถือว่าเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม กำแพงภาษีรอบใหม่นี้ยังเป็นแค่สัญญลักษณ์ของความพยายามสกัดกั้นสินค้านำเข้าจากจีนในขณะนี้ เพราะรถอีวีจีนตอนนี้ยังมีบทบาทไม่มากนักในตลาดรถอีวีของสหรัฐ แต่สำหรับสินค้านำเข้าโดยรวมจากจีนถือว่าพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วราว 50% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่รถอีวีของจีนก็มีราคาเพียงเศษเสี้ยวของรถอีวีผลิตในสหรัฐ แต่กลับได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
ล่าสุด AP รายงานว่า BYD ผู้ผลิตรถอีวีรายใหญ่ที่สุดของจีนได้เปิดตัว BYD รุ่น Seagull (ซีกัล) หรือนกนางนวล ซึ่งเป็นรถอีวีขนาดเล็ก แต่ใช้งานได้ดีและฝีมือในการประกอบก็ดี ขณะที่รถอีวีผลิตในสหรัฐกลับมีราคาสูงกว่า Seagull ถึง 3 เท่า โดย BYD ได้ตั้งราคา Seagull ไว้ที่ 1 หมื่น 2 พันดอลล่าสหรัฐหรือราว 4 แสน 4 หมื่นบาทเท่านั้น ส่วนรุ่นที่ถูกสุดก็ไม่ถึง 1 หมื่นดอลล่าร์หรือราว 3 แสน 6 หมื่นบาท ทำเอารัฐบาลสหรัฐและอุตสาหกรรมรถยนต์อเมริกันถึงกับหวั่นวิตก
อย่างไรก็ตาม ภาษีนำเข้าฉบับใหม่ของสหรัฐน่าจะลดแรงกดดันให้กับผู้ผลิตรถอเมริกันได้บ้างไม่มากก็น้อย