กองทุนเพื่อการพัฒนามาเลเซีย หรือ วันเอ็มดีบี ที่ปัจจุบันล้มละลาย เอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องอีก 9 บริษัท ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแพ่งกับนางรอสมาห์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา กล่าวหาภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซื้อนาฬิกา กระเป๋าหรู และเครื่องเพชรรวมหลายพันรายการ โดยใช้เงินยักยอกจากกองทุนของผู้ฟ้อง ด้วยการยักย้ายถ่ายโอนผ่านบริษัทนอกอาณาเขตหลายแห่ง ก่อนนำไปชำระให้กับผู้ขาย 48 รายในสถานที่ต่างๆ 14 แห่ง
ในคำฟ้องระบุนางรอสมาห์ เป็นจำเลยที่ 1 และชับนัม นเรนดาส ดัสวานี แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวสิงคโปร์ เป็นจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้จัดซื้อของหรูในนามนางรอสมาห์
ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่ตำรวจมาเลเซีย เข้าตรวจค้นบ้านและคอนโดมิเนียมหรู ของครอบครัวอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ระหว่างสอบสวนคดีโกงชาติครั้งมโหฬารจากกองทุนวันเอ็มดีบี เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2561 ตำรวจพบเครื่องเพชรและอัญมณีกว่าหมื่นรายการ กระเป๋าแบรนด์ดัง อาทิ แอร์แม็ส และ ชาแนล กว่า 500 ใบ นาฬิกาหรูกว่า 400 เรือน
คำฟ้องอ้างว่า สิ่งของเหล่านั้นสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่า เป็นเงินจาก วันเอ็มดีบีและบริษัทในเครือ จึงขอให้ศาลวินิจฉัยว่า ผู้ฟ้องมีผลประโยชน์ที่เป็นกรรมสิทธิอย่างเท่าเทียมกันในสินค้าและรายได้อันเกิดจากสินค้า ที่นางรอสมาห์ครอบครอง
นางรอสมาห์ ชำระเงินทั้งหมด 320 ครั้ง รวมเป็นเงินราว 346 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 หมื่น 2 พัน 700 ล้านบาท ผู้ฟ้องขอให้ศาลสั่งนางรอสมาห์ คืนสิ่งของที่อยู่ในครองครอบ หรือจ่ายเป็นเงิน 346 ล้านดอลาร์ หรือตามจำนวนที่ศาลลงความเห็นว่าเหมาะสม
นี่เป็นคดีแพ่งคดีที่สองที่นางรอสมาห์ถูกฟ้อง เกี่ยวกับการซื้อเครื่องเพชร ก่อนหน้านี้ บริษัทอัญมณีแห่งหนึ่งในเลบานอน ฟ้องเรียกเงินคืน 14.57 ล้านดอลลาร์ เป็นค่าเครื่องเพชรที่ส่งให้กับเธอเมื่อกันยายน 2561 แต่รอสมาห์อ้างว่า ถูกตำรวจยึดไป ไม่ได้อยู่ในความครอบครองของเธอ
อดีตภรรยาผู้นำมาเลเซีย วัย 73 ปี ยังถูกตัดสินจำคุก 10 ปี และปรับ 970 ล้านริงกิต เมื่อเดือนกันยายน 2565 จากความผิดรับสินบนแลกสัญญาโครงการรัฐ แต่ได้รับการประกันตัวระหว่างยื่นอุทธรณ์ ส่วนสามีของเธอ ปัจจุบัน ติดคุกอยู่ในคดีคอรัปชั่น