การทูตกับ "เมียนมา" ยุค "บิ๊กตู่" เหนือชั้นกว่ายุค "ทักษิณ" ชอบทำตัวเป็นข่าวโฉ่งฉ่าง "มือขวานายใหญ่" กริ้วหนักขู่ฟ้องปิดปาก ปมข้าว 10 ปีหม่ำได้ รัฐบาลโดนฝ่ายตรงข้ามรุมถล่มเต็มเปา
ข่าวที่น่าสนใจ
การทูตกับ “เมียนมา” ยุค “บิ๊กตู่” เหนือชั้นกว่ายุค “ทักษิณ” ชอบทำตัวเป็นข่าวโฉ่งฉ่าง
แต่ในสายต่าง “รัฐบาลทหารเมียนมา” มองว่า หวังดีประสงค์ร้าย จึงปล่อย “โฆษกรัฐบาลทหาร” ออกมาปรามว่าอย่าหาทำ แม้จะทำก็ควรทำแบบเงียบ ๆ ไม่ใช่โฉ่งฉาง ผิดกับสมัย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เหลี่ยมคูทางการทูตเหนือชั้นกว่าหลายขุม ขณะนั้นราวเดือนกรกฏาคมปีก่อน “ดอน ปรมัตถ์วินัย” อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้โอกาสทองจับเข่าคุยกับ “ออง ซาน ซู จี” เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนเดียวในโลกก็ว่าได้ ที่ได้พบ “ซู จี” ซึ่งๆหน้าตัวเป็น ๆ นักการทูตหรือผู้นำทั่วโลกขอพบกลับถูก “พลเอกมิน อ่อง หล่าย” ไล่ตะเพิด เฉกเช่นเพื่อนซี้นายใหญ่ “ฮุน เซน” ประธานองคมนตรีกัมพูชา ที่เพิ่งถูกปฏิเสธหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ
“นายใหญ่”กับเพื่อนซี้ “ฮุน เซน” ใช้การทูตโฉ่งฉ่างชอบทำตัวให้เป็นข่าว จนทำให้ “รัฐบาลทหารเมียนมา” หลอกด่าว่า “ไทยกับเมียนมา มีความสัมพันธ์อันดีกันมา มีความร่วมมือครอบคลุมทุกด้าน ดังนั้นหากมีใครไปพัวพัน กระตุ้น สนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่มุ่งทำลายประเทศเมียนมา ถือว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะ และไม่ควรทำ” กระแทก “นายใหญ่” เต็มเปา ขนาดกูรูความมั่นคงและต่างประเทศต่างหวั่นเกรงว่าการเข้ามาของ “นายใหญ่” รังแต่จะทำให้ปัญหาที่ซับซ้อนอยู่แล้วซับซ้อนเข้าไปอีก ดังนั้นนายใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ เลิกทำตัวโจ่งฉ่างแต่ควรเดินเกมใต้ดินทั้งทางการทูตและความมั่นคงแบบเงียบน่าจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะกระทบชิ่งต่อรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จะวางตัวลำบากถูกถล่มว่าเอียงข้างใดข้างหนึ่ง เหมือนเคยปากไวประนาฌสงครามระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาส
“มือขวานายใหญ่” กริ้วหนักขู่ฟ้องปิดปาก
อีกเรื่องที่รัฐบาลกำลังโดนถล่มเต็มเปา เพราะดันเป็นประเด็นเดือดที่เข้าทางคู่ปรับเก่า “เพื่อไทย” ต้นตำรับ “มือปราบจำนำข้าว” หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี ผู้มีส่วนทำให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องระหกระเหินอยู่ต่างแดนจากคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว “มือปราบจำนำข้าว” ออกมาท้า “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี มือขวานายใหญ่ไปเปิดโกดังพิสูจน์ข้าว 10ปียังกินได้จริงและเป็นข้าวจริงยุคยิ่งลักษณ์ใช่หรือไม่ พร้อมท้าดีเบตโทรโข่งรัฐบาล “ชัย วัชรงค์” บอดี้การ์ดรัฐบาล แบบไม่กล้วหน้าแหกกลางรายการ “ท็อปนิวส์”
“หมอวรงค์” ปักใจเชื่อว่ากระสอบข้าวในโกงดังที่ “มือขวานายใหญ่” ไปหม่ำโชว์ ไม่น่าใช่ข้าวในโครงการจำนำข้าวเมื่อ 10ปีก่อนโน้น ทำ “มือขวานายใหญ่” กริ้วหนักถึงกับขู่จะฟ้องปิดปาก เพราะรับไม่ได้กับข้อเท็จจริงในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องไม่ได้คุณภาพ ผวากินไปแล้วจะได้มะเร็งเป็นของแถม จากกลืนสาร “อะฟลาท็อกซิน” เข้าไป
หรือแม้แต่ขาประจำถล่มรัฐบาล “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ยังออกมาแขวะ “พี่อ้วน” เจ้าภาพจัดอีเว้นท์หม่ำข้าวเพื่อนายตระเวนส่งข้าว 10ปี ไปแจก บิ๊กสื่อช่องดัง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” หุงโชว์ออกอากาศหวังจะช่วยโปรโมท ข้าว10ปี ยังกินได้ แต่ก็ยังไม่มีใครเชื่อถือ เพราะยังจำภาพติดตา ภาพวันที่ “พี่อ้วน” ไปเจาะกระสอบข้าวใส่ถัง ไม่รู้กลัวอะไรถึงต้องใส่ถุงมือหนา ๆ ล้างข้าวในกะละมัง ข่าวว่าแอบผสมน้ำส้มสายชูเข้าไปด้วยเพื่อทำให้ข้าวข้าวจั๊วน่ากิน ล้างแล้วล้างอีกถึง 15 รอบ ก่อนเสียบปลั๊กหุงแล้วนำมาหม่ำโชว์ออกสื่อ จนกลายเป็นหัวเชื้อชั้นดีให้ฝ่ายแค้นรัฐบาลเพื่อไทยไปรุมถล่ม
เจ็บกระดองใจที่สุดตรงที่ชื่อดังช่องหนึ่งหักเหลี่ยม “พี่อ้วน” เอาข้าวไปให้ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ “อาจารย์อ๊อด” นักเคมีชื่อดัง พิสูจน์ “อาจารย์อ๊อด” เทสไป 1 ใน 3 ผงะ พบสาร “อะฟลาท็อกซิน” มัจจุราชตายผ่อนส่งติดมาด้วย
ปวดหัวแทนรัฐบาลโดนลูกหลงจาก “นายใหญ่” เดินเกมการทูตแบบโฉ่งฉ่าง “พี่อ้วน” จัดอีเว้นท์หม่ำข้าวโชว์แต่คนดันไม่เชื่อว่าข้าว 10ปี กินได้แถมเข้าทางฝ่ายแค้นมาถล่มด่ากลบเรื่องดี ๆ ของรัฐบาลไปเสียได้ นั้นคือข่าว “พิชัย ชุณหวชิร” ขุนคลังใหม่ป้ายแดง ประกาศหาเสียงให้รัฐบาลปลดแบล็กลิสต์ “ลูกหนี้เงินหมื่น“ที่ค้างชำระกับธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.ชุบชีวิตใหม่ลูกหนี้กว่าล้านคน ไปอย่างน่าเจ็บใจจริงๆ!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง