“วธ.” เปิดคูหาประเทศไทยในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ฝรั่งเศส 14-25 พ.ค.นี้

ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยได้รับความนิยมจากทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ที่กวาดรายได้สูงสุดในรอบทศวรรษกว่า 720 ล้านบาท ปลุกกระแสของคำว่า Soft Power ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้ตื่นตัวยิ่งขึ้น ภาพยนตร์เรื่อง “ธี่หยด” สร้างรายได้กว่า 480 ล้านบาท และปีนี้ ภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” ทำรายได้รวมทั่วประเทศกว่า 300 ล้านบาท โดยภาพยนตร์เหล่านี้นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในระดับนานาชาติ ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้บูรณาการร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และภาคเอกชน เข้าร่วมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ณ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประจำปี 2567 สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 14-25 พฤษภาคม 2566 มีภาคเอกชนเข้าร่วมงาน 12 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศไทย ได้แก่ M STUDIO, SAHAMONGKOL FILM INTERNATIONAL, BRANDTHINK, NERAMITNUNG FILM , GDH559, YGGDRAZIL GROUP, NIGHT EDGE PICTURES , BENETONE FILMS , HOLLYWOOD(THAILAND) , KANTANA MOTION PICTURES , HALO PRODUCTIONS , RIGHT BEYOND และสมาคมส่งเสริมคอนเทนต์วายไทย ภายในเทศกาลมีหลากหลายกิจกรรมภายในงาน อาทิ กิจกรรมตลาดซื้อขายภาพยนตร์และโทรทัศน์ นิทรรศการคูหาประเทศไทย เป็นต้น

นางยุพา กล่าวด้วยว่า ภายในงานคูหาประชาสัมพันธ์ประเทศไทยมีการสาธิตอาหารไทยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้ชมและชิม อาทิ ต้มยำกุ้ง ผัดหมี่โคราช หมี่กรอบใส่กระทงทอง ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น รวมทั้งมอบผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า ซึ่งสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยมอบให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในคูหาประชาสัมพันธ์ประเทศไทยด้วย เพื่อส่งเสริม Soft Power ด้านท่องเที่ยว อาหารและแฟชั่นของไทย ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวไทย สร้างรายได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจชาติและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ไทยในเวทีโลก