จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ ด่านศุลกากรจันทบุรี ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 และหน่วยงานความมั่นคง ลุยตรวจคันจับกุม บุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้ากว่า 4,200 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ตามนโยบายของนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และนายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องประชาชนและ เยาวชนที่อาจได้รับสารพิษจากบุหรี่ไฟฟ้า ในการนี้นายศศิน ปงรังษี ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 นายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์ นายด่านศุลกากรจันทบุรี นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี
พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พ.ต.อ.เสกสรรค์ ศรีเพริศ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี พ.ต.ท.เอกภาค ธูปสมุทร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองจันทบุรี และพ.ต.อ.พรชัย แช่มช้อย ผู้กำกับการตำรวจ ตระเวนชายแดนที่ 11 ได้ร่วมกันวางแผนตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย จำนวน 2 แห่งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี หลังได้รับแจ้งว่าภายในมีการลักลอบเก็บและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยผลการตรวจค้นพบ บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 4,200 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง
“กำหนดให้บารากู่และบารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาใน ราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557 ” และเนสินค้าต้องห้ามนำเข้าหรือส่งออก ตามมาตรา 242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยการลักลอบจำหน่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ
สมเศียรโชติสนิท ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดจันทบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-