“อธิบดีกรมราชทัณฑ์” ไล่เรียงไทม์ไลน์ชัดๆ “บุ้ง ทะลุวัง” มีอาการวูบก่อนเสียชีวิต

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" ไล่เรียงไทม์ไลน์ชัดๆ "บุ้ง ทะลุวัง" มีอาการวูบก่อนเสียชีวิต

Top news รายงาน วันที่ 17 พ.ค.67 ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากขั้นตอนที่ได้รับรายงานมานั้น ขั้นตอนแรกพบว่าบุ้งและตะวันตื่นตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. และมีการพูดคุยกันจากนั้นตะวันไปเข้าห้องน้ำ แล้วกลับมาถามบุ้งที่ขณะนั้นนอนอยู่ที่เตียงผู้ป่วยว่ายังปวดท้องอยู่หรือไม่ และเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสภาพร่างกายตามปกติทุกวันทั้งการตรวจวัดความดัน ออกซิเจน การเต้นของหัวใจ ตรวจเสร็จแล้วก็มาตรวจตะวันต่อ หลังจากนั้นประมาณ 1 นาที หรือเวลาประมาณ 06.00 น. บุ้งได้ลุกขึ้นนั่ง และปรากฏว่ามีอาการวูบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.)จำนวน 4 คน ก็ได้ยกบุ้งทั้งที่นอนไปรักษาที่ห้องไอซียู และทำCPR มีการตรวจวัดชีพจร ให้กลูโคลส ฉีดอะดรีนารีนเพื่อกระตุ้นหัวใจโดยมีแพทย์เป็นผู้ฉีด มีการทำCPR ตลอดเวลาต่อเนื่องจนกระทั่งนำตัวส่งแพทย์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ระหว่างนั้นมีการประเมินสภาวะร่างกายโดยการจับชีพจรแต่ไม่สามารถจับสัญญาณการเต้นของหัวใจได้ แต่สัญญาณชีพที่ตรวจวัดได้ครั้งสุดท้ายคือ 90 ครั้ง/นาที จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์จึงแจ้งว่า เสียชีวิตอย่างสงบ

 

 "บุ้ง ทะลุวัง" มีอาการวูบก่อนเสียชีวิต

 

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า บุ้ง ได้เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์หรือไม่นั้น นายสหการกล่าว  ว่าจะต้องไปตรวจสอบเพิ่มเติมแต่คิดว่าอยู่ระหว่างการยื้อชีวิตให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ได้บอกว่าสิ้นชีพไปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ส่งตัวช้าเพราะหลังเกิดเหตุได้ประสานโรงพยาบาลธรรมศาสตร์โดยทันที แต่ระหว่างนั้นมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการหลายอย่าง ย้ำว่าได้พยายามสุดความสามารถแล้ว แต่เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และไม่มีอาการที่บ่งชี้มาก่อนว่าจะเกิดภาวะฉุกเฉินที่ส่งผลต่อชีวิต ซึ่งได้ตรวจสอบรายงานทางการแพทย์มาแล้วทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ ห้องกู้ชีพของทัณฑสถานและการรักษาของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีความพร้อมในระดับมาตรฐานของสถานพยาบาลชั้นทุติยภูมิโดยทั่วไป แต่หลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีสาร และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการกู้ชีพเพียงพอหรือไม่

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในการแถลงข่าวครั้งล่าสุด ผอ.รพ.ทัณฑสถาน ผู้ให้ข้อมูลเป็นแพทย์ที่ไม่ใช่แพทย์เจ้าของไข้และไม่ใช่แพทย์เวร จึงไม่สามารถให้รายละเอียดในเชิงลึกได้  จึงทำให้เกิดการตอบคำถามที่ไม่ชัดเจน ส่วนเรื่องการดูแลรักษาในวันนั้น เนื่องจากบุ้งเป็นผู้ป่วยพักฟื้น ไม่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษจะมีการตรวจ จัดอาหารและอาหารเสริมให้ตามปกติ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ในห้องนั้นมีหน้าที่ ที่คอยเป็นหูเป็นตาให้กับแพทย์โดยมีแพทย์และพยาบาลควบคุมดูแลอีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ ยืนยันว่าแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์และแพทย์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ได้พยายามยื้อชีวิตบุ้งอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ ส่วนรายละเอียดทางการแพทย์ในเชิงลึกนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ  รวมถึงไม่ได้ส่งตัวช้า เนื่องจากมีหลายขั้นตอนที่ต้องทำ เช่น ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสัญญาณหัวใจ

ในตอนท้ายการสัมภาษณ์ นายสหการณ์  เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังเผยว่า สำหรับกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการกลับมารับประทานอาหารของบุ้งนั้น ตนขอเรียนว่าการจัดอาหารสำหรับผู้ป่วย เราก็จะมีนักโภชนาการพิจารณาอยู่ว่าอาการป่วยลักษณะนี้จะต้องรับประทานอะไร ส่วนใหญ่เริ่มจากอาหารอ่อน ตามด้วยวิตามินเสริมและนม ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอาการของผู้ป่วย แต่ว่าทางทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็ได้จัดอาหารตามโภชนาการแก่ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง ทุกมื้อ ส่วนที่ตนได้รับรายงานมาก็คือบางครั้งบุ้ง ก็เลือกดื่มน้ำหวานหรือรับประทานอาหารเบาๆก่อน ส่วนก่อนจะถึงวันที่เสียชีวิต เจ้าตัวก็ได้มีการเริ่มรับประทานข้าวต้มมาก่อน อย่างไรก็ตาม ในเช้าวันเสียชีวิต (14 พ.ค.) บุ้งและตะวัน ทั้งคู่นอนอยู่ในห้องผู้ป่วย มีการตื่นมาตอน 03.00 น. อย่างที่เราทราบคนป่วยมักจะมีสภาพหลับๆตื่นๆ แต่ ณ ตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลารับประทานอาหารเช้าแต่อย่างใด จนมาถึงช่วงเวลาประมาณ 06.20 น. บุ้งถึงเกิดอาการวูบหมดสติ

 

 "บุ้ง ทะลุวัง" มีอาการวูบก่อนเสียชีวิต

 

ส่วนกรณีที่ทนายกฤษฎางค์ นุตจรัส (ทนายความของบุ้ง) เผยว่าได้รับทราบผลการตรวจกระเพาะอาหารของบุ้งเบื้องต้นว่าภายในกระเพาะอาหารไม่มีอาหารเลยนั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถามว่าผลชันสูตรศพออกมาแล้วหรือ ตนยังไม่ทราบในรายละเอียดส่วนนี้ แต่ได้ประสานไปที่ รพ.ธรรมศาสตร์ แล้วทราบว่ารายละเอียดบางส่วน ทาง รพ.ธรรมศาสตร์ ยังต้องประสานการทำงานร่วมกับสถานพยาบาลอื่นในการตรวจชันสูตร ยืนยันว่าผลการชันสูตรพลิกศพยังไม่ออก ส่วนทนายความรับทราบจากทางใดตนไม่ทราบเช่นกัน

สำหรับกรณีที่ทนายกฤาฎางค์อ้างว่าบุ้งเสียชีวิตก่อนจะส่งตัวถึง รพ.ธรรมศาสตร์ นั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ขอให้รอการชันสูตรพลิกศพให้เสร็จสิ้นก่อน หากเราไม่รอกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ก็ยังยืนยันไม่ได้ ส่วนการปั๊มชีพจรภายหลังที่บุ้งวูบหมดสตินั้น เจ้าหน้าที่ได้พาบุ้งไปห้องไอซียูทันที ไม่ได้ปั๊มชีพจรบนเตียงผู้ป่วย เพราะเตียงอาจยุบ จึงมีการยกเตียงจากชั้น 2 ที่บุ้งนอนอยู่ลงไปชั้น 1 ที่มีห้องไอซียูแทน เพราะมันคือเหตุฉุกเฉิน โดยมีเจ้าหน้าที่จำนวน 4 ราย ช่วยกันยก

“ผมขอยืนยันว่าตอนที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ส่งตัวบุ้งและตะวันกลับมารักษาต่อที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้น เนื่องจากทั้งคู่อยู่ในสภาวะพักฟื้นไม่ใช่ผู้ป่วยฉุกเฉิน จึงต้องเป็นการรักษาตามอาการ และมีการจัดอาหารให้ ซึ่งสิ่งสำคัญคือแพทย์ไม่มีสิทธิไปบังคับด้วยการกินหรือให้สารอาหารทางหลอดเลือด ตามที่มีการกำหนดสำหรับแพทยสมาคมโลก (WMA) ในกฎโตเกียวปี ค.ศ 1975 และกฎมอลต้า ค.ศ. 1991 จึงทำให้แพทย์ไม่มีสิทธิไปบังคับหรือกระทำการใดๆได้ หากผู้ป่วยไม่ยินยอมไปทำก็ถือเป็นการทำลายคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุ

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุอีกว่า จากกฎดังกล่าวของแพทยสมาคมโลก เราก็มีการนำมาปรับใช้ก่อนว่าหากผู้ต้องขังมีการอดอาหารและน้ำ ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการโน้มน้าวก่อน และบอกผลเสียต่อสุขภาพหากอดอาหาร แต่ถ้าเขายืนยันตามความมุ่งมั่นเราก็มีหน้าที่ประคับประคองดูแล หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็ต้องเข้าช่วยเหลือทันที

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยต่อว่า ส่วนประเด็นภาพกล้องวงจรปิดภายในห้องพักผู้ป่วยทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่มี น.ส.ทานตะวัน อยู่กับ น.ส.เนติพร ก่อนเสียชีวิตและแผนการรักษาล่วงหน้า 5 วันที่ทนายกฤษฎางค์ได้ขอนั้น ตนทราบว่าเมื่อช่วงเช้าทางผู้แทนของผู้เสียชีวิต (พ่อหรือแม่ของบุ้ง) ได้เข้ามาติดต่อรับเอกสารการตรวจรักษาของบุ้งย้อนหลัง 5 วันเรียบร้อยแล้ว ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิด คงต้องดูอีกที เพราะมันไม่ไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆในห้องนั้นด้วย คงต้องมีการเซ็นเอกสารยินยอมจากผู้อื่นก่อน ทั้งนี้ ถ้าหากทางครอบครัวยังมีความข้องใจเรื่องการเสียชีวิต อำนาจคำสั่งของศาลสามารถดำเนินการไต่สวนได้หมดเพื่อพิสูจน์ความผิดต่าง ๆ

 

 

ส่วนกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าคำพูดที่หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ (นพ.สมภพ สังคุตแก้ว) ระบุว่าไม่มีหมอเทวดาที่ไหนรักษาได้นั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ตนมองว่าอาจจะเป็นในลักษณะการพูดมากกว่า เพราะถ้าพินิจกันตามตรง ผู้ป่วยมีหลายประเภท มีทั้งผู้ป่วยในห้องพักฟื้นและรอการกลับบ้าน ในขณะที่บุ้งไม่ใช่ผู้ป่วยฉุกเฉิน เขาคือผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาไปตามอาการ แต่สิ่งที่เราคาดเดาไม่ได้คือบางทีไม่ฉุกเฉินแต่วูบหมดสติก็มีโดยไม่มีข้อบ่งชี้ แต่แพทย์ได้ทำสุดความสามารถแล้ว เรามีการวัดค่าออกซิเจน อัตราการเต้นของชีพจร ค่ากลูโคส ฯลฯ ทุกวัน ซึ่งมันไม่มีตัวบ่งชี้มาก่อนว่าบุ้งอยู่ในภาวะอันตรายหรือเสี่ยงอันตราย และบุ้งยังมีกิจกรรมกิจวัตรประจำวันปกติ ส่วนเรื่องการเต้นของชีพจรหัวใจของบุ้งก่อนเสียชีวิตอาจจะประมาณ 90 ครั้งต่อนาที ซึ่งมันเป็นค่าปกติ จึงไม่ได้ทำให้เห็นว่าต้องมีการกู้ชีพกระทันหัน

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยต่อว่า ส่วนกรณีที่ตนได้ไปสอบถามเพื่อนที่เป็นแพทย์อยู่ภายนอกนั้น โดยเฉพาะในเรื่องเทคนิคการแพทย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการกู้ชีพบุ้ง เดี๋ยวตนจะไปตรวจสอบให้อีกครั้ง แต่ยืนยันว่าแพทย์ทำตามมาตรฐานขั้นทุติยภูมิในการช่วยเหลือผู้ป่วย อีกทั้งวานนี้ (16 พ.ค.) ตนได้สั่งการให้ผู้แทนไปตรวจสอบรายละเอียดมาตรฐานการให้การรักษาดูแลว่ามีสิ่งใดที่เป็นจุดอ่อนหรือไม่ ทั้งนี้ ตนไม่ได้บอกว่าแพทย์ลืมใช้สารอะไรในการฉีดกระตุ้นช่วยเหลือบุ้ง เพราะเขาทำตามกระบวนการการรักษาอยู่แล้ว แต่ในเรื่องที่สื่อมวลชนสงสัย เช่น มีการใช้สารอื่นในการขยายหลอดเลือดช่วยการเต้นของหัวใจหรือไม่นั้น แพทย์มีการใช้อยู่แล้ว แต่เป็นฟอสฟอรัสหรือไม่ ก็จะได้ให้ผู้แทนไปตรวจสอบให้ครบทั้งหมด

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่ส่งตัวบุ้งไปเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงมากกว่านี้ ตนอยากเรียนว่าระยะห่างระหว่างทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กับ รพ.ธรรมศาสตร์ มันไม่ไกลขึ้นโทลล์เวย์ได้ และทั้งบุ้งและตะวันต่างมีประวัติการรักษาพร้อมอยู่แล้ว อาจทำให้กระบวนการรักษาน่าจะดีกว่า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คนแน่น ปชช.หลั่งไหลร่วม "ลอยกระทง" ม.เกษตรฯ บางเขน คับคั่ง
“บิ๊กป้อม” ร่วมสืบสานประเพณี "ลอยกระทง" พร้อมอวยพรคนไทยสุขสมหวังดังคำอธิษฐาน
ศรัทธาหลั่งไหล รับขบวนแห่ทางน้ำ จำลองยกทัพพระเจ้าตาก แห่องค์หลวงพ่อโสธรทางน้ำ ครบรอบ 134 ปี ประชาชนและนักท่องเที่ยวหลั่งไหลร่วมชมขบวนแห่คับคั่ง
ตม.ชลบุรี รุกฆาต! เปิดปฏิบัติการดาวกระจาย ลุยแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี ทลายรังปราบแก๊งต่างด้าว อุ้มลูกเร่ขายดอกไม้ เรียกคะแนนสงสารจากนักท่องเที่ยว
"ทนายบอสพอล" จ่อเอาผิด 2 นักตบทรัพย์ข้อหา “พยายามกรรโชกทรัพย์” 
ซิ่งรถจักรยานยนต์ แหกโค้งพุ่งชนรถยนต์กระบะจนกระเด็นลอยตกหน้ารถกระเด็นตกพื้นถูกรถลากไปพุ่งตกในไร่ริมถนน นอนตายใต้ท้องรถ
แรงงานประมงกัมพูชา เมาซิ่งรถชนประสานงาสาหัส หลังเรือเทียบท่า ปล่อยเที่ยวลอยกระทง ขณะกล้องหน้ารถ จับภาพวินาทีซิ่งข้ามเลนพุ่งชนอย่างแรง แม้รถยนต์จะหักหลบแต่ไม่ทัน
"พระปีนเสา" ไร้สังกัดแล้ว หลัง "เจ้าอาวาสวัดสามชุก" สั่งขับพ้นวัด ชี้พฤติกรรมไม่เหมาะสม
โจรใจบาป ลักขโมยดาบ "พระเจ้าตาก" วัดอินทารามวรวิหาร ล่าสุดตร.ตามรวบทันควัน
ตำรวจ สภ.แสนสุข ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น