หนีไปบวชเป็นพระก็ไม่รอด “สอบสวนกลาง” รวบอดีตกรรมการบริษัท ออกใบกำกับภาษีปลอม สูญ 146 ล้าน

หนีไปบวชเป็นพระก็ไม่รอด "สอบสวนกลาง" รวบอดีตกรรมการบริษัท ออกใบกำกับภาษีปลอม สูญ 146 ล้าน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรรณลพ รัตนวงษ์ สว.กก.๒ บก.ปอศ., ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ ฮงสูน, ร.ต.อ.จักรินทร์ พรอินทร์ รอง สว.กก.๒ บก.ปอศ., ด.ต.อิทธิพล จันทร์มณี และ ด.ต.ฌฉลิมพล ไข่ทอง ผบ.หมู่ กก.๒ ร่วมกันจับกุม นายธนโชติฯ อายุ 15 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.122/2567 ลงวันที่ 26 เมษายน 2567 ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีเจตนาออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิจะออก อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๒ บก.ปอศ. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาที่ภายในบริเวณวัดแห่งหนึ่ง หมู่ที่ ๔ บ้านสระจันทอง ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.๒ บก.ปอศ. ได้เปิดปฏิบัติการ Anti tax crime จึงได้เริ่มปฏิบัติการปราบปรามกับขบวนการปลอมใบกำกับภาษีอย่างต่อเนื่อง และกรมสรรพากรได้เข้ามาร้องทุกข์ที่ กก.๒ บก.ปอศ. ให้พิจารณาดำเนินความผิดคดีอาญา กับจับกุม นายธนโชติฯ ผู้ต้องหา ทั้งในฐานะนิติบุคคล และฐานะส่วนตัว ซึ่งมีชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม และประกอบกิจการจำหน่ายเศษเหล็กทุกชนิด เมื่อไปตรวจสอบพบว่าบริษัทฯ ได้รื้อถอนและไม่มีการประกอบกิจการแล้ว ประกอบกับกองตรวจสอบภาษีกลาง ได้นำรายชื่อบริษัทดังกล่าว ขึ้นตรวจสอบ ในระบบข้อมูลผู้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประเภทไม่ต้องสอบยัน ดังนั้นใบกำกับภาษีที่บริษัท ดังกล่าวออกจึงเป็นใบกำกับภาษีที่ไม่มีสิทธิจะออก ตามมาตรา 81/13, 90/4(3) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลรัษฎากร และบริษัทได้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิจะออก ตั้งแต่ปี 2555 – 2558 การกระทำดังกล่าวทำให้รัฐขาดรายได้ไม่ได้รับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้กระทบถึงเศรษฐกิจภาพรวม ของประเทศ และรัฐได้รับความเสียหายกว่า 146 ล้านบาท

 

 

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนสืบทราบว่า นายธนโชติฯ ผู้ต้องหา ได้หนีไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เดินทางไปวัดดังกล่าว และเมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัวจึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจสอบและพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง จึงดำเนินการจับกุมบริเวณดังกล่าว และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.๒ บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การให้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจ ที่ได้ดำเนินการออกใบกำกับภาษีปลอม โดยไม่มีสิทธิจะออก ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายรัษฎากร และฝากเตือนถึงประชาชนทั่วไปห้ามซื้อขายบัตรประชาชน หรือบัญชีธนาคารให้กับบุคลอื่นๆ ก่อนที่จะตกเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว และความผิดดังกล่าว มีโทษจำคุกสูงถึง 7 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิชัย" เผย พณ.ลุยสอบ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 " เจอพิรุธอื้อ โยง 13 บริษัทธุรกิจ ผู้ถือหุ้นจนผิดปกติ จ่อเอาผิดเป็นนอมินี
ทรัมป์ขู่ฮูตีหยุดโจมตีทะเลแดงหากไม่อยากเจอของจริง
อิหร่านขู่ครอบครองนิวเคลียร์ถ้าทรัมป์ยังขู่ถล่มไม่เลิก
'ธนินท์' นำผู้บริหาร-พนักงานทุกกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีทั่วโลก ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหว ด้านซีอีโอศุภชัย เดินหน้าตรวจสอบความปลอดภัย สร้างความมั่นใจ ส่ง 'ซีพีอาสา ร้อยเรียงความดี' ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งไทย-เมียนมาต่อเนื่อง
สหรัฐฯช่วยเมียนมา 67 ล้านแต่ไร้ทีมกู้ภัย
“จุลพันธ์” เผยกรมบัญชีกลาง เพิ่มงบให้ปภ. ช่วยเหตุแผ่นดินไหว 200 ล้านบาท ขอเทียบเคียงเยียวยาเหตุสึนามิ-น้ำท่วม
"เลขาธิการกปส." ร่วมให้กำลังใจ 2 ครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุตึกสตง.ถล่ม พร้อมจ่ายเงินเยียวยา 2.7 ล้าน
“อนุทิน” รับลูกนายกฯ สั่งปภ.ทำแผนเผชิญภัยพิบัติทุกรูปแบบ ในกรอบเวลา 30 วัน
เครือซีพี พร้อมกลับเข้าสู่โหมดการทำงานปกติ หลังอาคารสำนักงานผ่านการตรวจสอบโดยวิศวกรอิสระ ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลกระทบจากแผ่นดินไหว
เคียงข้างทุกวิกฤต! ซีพีเอฟ ร่วมร้อยเรียงความดี ส่งความห่วงใยผ่านอาหาร-สิ่งของจำเป็น หนุนภารกิจค้นหาต่อเนื่อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น