“พิธา” ปัดก้าวไกลโหนศพ”บุ้ง” อ้างไม่รู้จักก๊วนทะลุวังเป็นการส่วนตัว ห้ามอดข้าวไม่ได้

การที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าถูกโยงเข้ากับคดีมาตรา 112 นั้น “ต้องแยกออกจากกัน การแก้ไขมาตรา 112 หรือการปฏิรูปสถาบัน ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ นส.เนติพร เรียกร้อง ส่วนเหตุที่ทำให้ น.ส.เนติพร ต้องอดอาหารเป็นเวลานาน เป็นเรื่องของการเข้าถึงสิทธิการประกันตัว น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ น.ส.เนติพร และอีก 2 – 3 คน อดอาหาร มากกว่าจะเป็นเรื่องมาตรา 112”

“ผมพูดแทน น.ส.เนติพรไม่ได้ แต่เชื่อว่าต่อสู้เพื่อเพื่อน หรือคนที่มีความคิดแบบเดียวกัน คือความเสมอภาคเรื่องกฎหมาย และสิทธิในการประกันตัว รวมถึงการฝากขัง และเข้าถึงทนาย”

เพราะเหตุใด สส.ก้าวไกล เพิ่งออกมาแสดงท่าทีหลังการเสียชีวิต เป็นการฉกฉวยโอกาสทางการเมืองหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า ไม่ใช่การฉกฉวยแน่นอน การเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชน ไม่ว่ากลุ่มไหนก็มีอิสระเป็นของตนเอง ไม่ได้ยึดโยงกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคก้าวไกลเชื่อในหลักนิติรัฐ นิติธรรม และหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสากลที่เชื่อในบริบทประชาธิปไตยอยู่แล้ว

“ไม่ได้หมายความว่า พรรคก้าวไกลกับคนหนุ่มสาว เห็นไปในทางเดียวกันทุกเรื่อง แม้ว่าจะเป็นฝั่งตรงกันข้าม แล้วถูกคุมขังโดยไม่ได้พิจารณา พรรคก้าวไกลก็จะออกมาพูดเหมือนกัน ไม่ได้เป็นการฉกฉวยเอาผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่มีเรื่องนั้นอยู่ในหัวพวกเราอยู่แล้ว เราให้เกียรติครอบครัวผู้เสียชีวิตมากกว่า”

นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.ความโปร่งใสชัดเจนจากทางกรมราชทัณฑ์ 2.ทางตำรวจและอัยการ ให้ตอบสนองนโยบายจากรัฐบาล ในการไม่เอาผิดจากผู้เห็นต่างทางการเมือง และชะลอคดีความ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลตำรวจโดยตรง ซึ่งถือเป็นต้นน้ำของการแก้ไขปัญหากระบวนการยุติธรรม 3.การนิรโทษกรรมคดีการเมือง ซึ่งถือเป็นปลายน้ำของการแก้ปัญหา ต้องเร่งผลักดันให้เร็วที่สุด ไม่ควรแยกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกไป โดยเฉพาะอนาคตของชาติ ต้องไม่ให้เขาต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงอีกต่อไป

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกล ได้พยายามสื่อสารพูดคุยกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวและเยาวชน ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ว่าให้คิดถึงชีวิตตัวเองก่อน แต่เราก็ไม่สามารถก้าวก่ายความเด็ดเดี่ยวของเขาได้ “ตนไม่รู้จักพวกเขาเป็นการส่วนตัว แต่หากมีโอกาสได้พบ จะบอกว่าให้เอาชีวิตตัวเองมาก่อน เพราะการต่อสู้ยังอีกยาวนาน แต่จะฟังหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของเขา”

นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ย้ายออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ กลับมาที่เรือนจำว่า เห็นจากข่าวแล้ว น.ส.ทานตะวัน คงจะเสียใจที่สูญเสียเพื่อน แต่ชีวิตตัวเองก็สำคัญ ตนเป็นห่วง จึงขอฝากพ่อแม่ของ น.ส.ทานตะวัน ให้ดูแลด้วย

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยมีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน และแต่งตั้งให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นนายประกัน เป็นผู้กำกับดูแล

สำหรับคำสั่งให้ประกันตัว มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน พร้อมกับมอบเงื่อนไขเพิ่มเติมคือ

1. ให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM)

2. ห้ามออกนอกเคหสถาน ยกเว้นเจ็บป่วย

3. ห้ามกระทำการในลักษณะเดียวกันนี้อีก

4. ห้ามกระทำการที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

5. ห้ามออกนอกราชอาณาจักร

โดยนายพิธาได้เดินทางไปฟังผลการไต่สวนกรณีขอปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลอาญา และได้ใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกอบการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของทนายความมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยพิธาเผยว่า ตนยินดีเป็นผู้กำกับดูแลตะวัน หากได้รับการประกันตัว

สำหรับทานตะวัน ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 จากการไลฟ์บนเฟซบุ๊กก่อนมีขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565