“นายกฯ” พอใจความสำเร็จภาพรวมเยือนอิตาลี ผลลัพธ์ด้านธุรกิจเกินความคาดหมาย

"นายกฯ" พอใจความสำเร็จภาพรวมเยือนอิตาลี ผลลัพธ์ด้านธุรกิจเกินความคาดหมาย

วันนี้ (22 พฤษภาคม 2567) เวลา 11.40 น. (เวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียวซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงโตเกียว เพื่อเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum

โดยเมื่อเวลา 18.07 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโรม ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง) นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ระหว่างการเดินทางจากสาธารณรัฐอิตาลีไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถึงภารกิจเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้หารือ Four eyes กับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งเป็นประธาน G7 ด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1) การยกเว้นการตรวจลงตราเข้าเขตเชงเก้น นายกรัฐมนตรีอิตาลีรับปาก และชื่นชมคนไทยที่มาเที่ยวที่อิตาลี ไม่มีปัญหาเรื่องการหลบหนี หรือก่อปัญหา นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกตัวอย่างการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ที่มีความสะดวกมากขึ้น ทำให้มีการลงทุนและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนสูงมาก ในขณะที่การขอวีซ่าเชงเก้นต้องใช้ระยะเวลานาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการอำนวยความสะดวกให้การค้าขายระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็รับไปผลักดันให้ รวมถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี รวมเป็น 3 ประเทศใหญ่ ซึ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะพยายามทำอย่างเต็มที่

2) ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย – สหภาพยุโรป ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็เห็นความสำคัญ และรับปากที่จะช่วยดูแล เพราะถ้าภาคเอกชนอิตาลีต้องการไปลงทุนเพื่อขยายฐานการผลิตที่ไทย เพื่อทำให้สินค้ากระจายตลาดทั่วโลก เรื่อง FTA ก็เป็นเรื่องสำคัญ

3) ความมั่นคง ทั้งเรื่องการซื้ออาวุธ และการพัฒนากองทัพร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ นายกรัฐมนตรีได้ให้ผู้ช่วยทูตทหารประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงของอิตาลี ซึ่งไม่เฉพาะเพียงเรื่องการซื้ออาวุธ แต่รวมถึงการพัฒนาระบบในการฝึกซ้อม และเทคโนโลยีต่าง ๆ

4) อุตสาหกรรมการออกแบบและแฟชั่น ซึ่งอิตาลีมีศักยภาพมาก โดยนายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนการจัดนิทรรศการ แลกเปลี่ยนนักเรียน และผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้ โดยนายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างภาคเอกชนที่ได้พบหารือ เช่น Bvlgari

5) พลังงาน อิตาลีสนใจเรื่องพลังงานสะอาด และการค้นหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ

6) แรงงาน นายกรัฐมนตรีอิตาลีเป็นฝ่ายหยิบยกขึ้นมา โดยทางอิตาลีมีความต้องการแรงงานเฉพาะฤดูที่เกี่ยวกับการเกษตร อยากสนับสนุนให้แรงงานเกษตรไทยเข้ามาทำงานที่ประเทศอิตาลี ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการแรงงานไทย ที่เป็นแรงงานที่มีคุณภาพทางด้านการเกษตร และรายได้สูงมาก ถือเป็นอีกทางเลือกให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวไทย

 

 

 

 

และมีการพูดคุยเรื่องโครงการ Landbridge การขยายสนามบินซึ่งทางอิตาลีก็มีเทคโนโลยีที่อาจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาได้ นายกรัฐมนตรีอิตาลีได้เสนอให้ทั้งสองประเทศมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจนในการมานั่งคุยกัน และมีการเซ็น MOU ระหว่างภาคเอกชนกับภาคเอกชน หรือเอกชนกับรัฐบาล

นายกรัฐมนตรีเชิญนายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และเชิญชวนให้ไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทำให้อาจมีการเดินทางเยือนไทยในช่วงต้นปี 2568 โดยจะมีการนำนักธุรกิจร่วมเดินทางเพื่อจัดเป็น Business Forum

นอกจากนี้ ในวันที่ 1 กรกฎาคม จะมีการเปิดเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ – มิลาน และช่วงฤดูหนาวจะมีการเปิดเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ – โรม ถือว่าเป็นเรื่องการมีความเชื่อมโยงที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ ซึ่งคาดว่าสายการบินแห่งชาติของอิตาลีก็น่าจะสนใจในเรื่องนี้

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การเยือนสาธารณรัฐอิตาลีในครั้งนี้ ถือว่าสำเร็จเหนือความคาดหวัง เพราะมีการกำหนดขั้นตอนการทำงานอย่างชัดเจน ว่าอนาคตจะมีขั้นตอนอย่างไร จะทำอะไรบ้าง ซึ่งนายกรัฐมนตรีพอใจภาพรวมตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมามาก

นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า ความเป็นกลางทางด้านการเมืองของไทยทำให้ไทยมีเสน่ห์ในสายตานานาชาติ เพราะการจะตัดสินใจย้ายฐานการผลิตเข้ามา เขาต้องมั่นใจว่าไทยจะสามารถส่งสินค้าได้โดยที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับหลาย ๆ ประเทศ การรองรับด้านพลังงานสะอาดก็เป็นเรื่องสำคัญ และชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศไทย ทำให้ไทยมีเสน่ห์ดึงดูดให้มีนักลงทุนเดินทางมา

 

สำหรับเรื่องความกังวลในเรื่องประเด็นการเมืองภายในประเทศ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าผู้นำทั้งสองประเทศไม่ได้กล่าวถึงประเด็นทางการเมืองไทยเลย แต่พูดถึงเรื่องธุรกิจ ฝ่ายอิตาลีมีความมั่นใจในประเทศไทยสูงมาก เป็นรัฐบาลที่มาตามระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง มีความชอบธรรม การเดินทางครั้งนี้เป็นทริปที่ 15 แล้ว ได้ไปปรากฏตัวในเวทีโลกหลายเวที และเน้นย้ำเสมอว่า ประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับการทำธุรกิจ และไม่มีโอกาสและช่วงเวลาไหนดีที่สุดที่จะมาลงทุนในไทยเท่าช่วงเวลานี้แล้ว ไม่ว่าเป็นเรื่อง BOI ที่สนับสนุนการลงทุน พลังงานสะอาด และจุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศ เราให้ความมั่นใจพอสมควร

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจบทริปนี้แล้วจะเยือนประเทศไหนต่อไป นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าจะไปเยือนประเทศอินเดีย จากนั้นจะไปแอฟริกา ไปเปิดตลาดค้าขายเกี่ยวกับเรื่องอาหารและสินค้าเกษตร จากนั้นจะไปเยือนตุรกีประตูสู่ทวีปยุโรป ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นช่วงปลายไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สาวไทย" เล่านาทีชีวิต ถูกแก๊งจีนเทา จับฉีดยากระตุ้น หลอกบังคับขาย "ไข่" สืบพันธุ์ ผสมเทียม
"กฟภ." แจงเวทีกมธ.ตัดไฟ "เมียนมา" พลการไม่ได้ หลักฐานสมช.ใช้ต่อสู้คดีได้ ถ้าถูกฟ้อง
ไปรษณีย์สหรัฐหยุดรับพัสดุจีนและฮ่องกง
“กูรู” เห็นกับตา! ทหารพม่าตั้งฐานคุมเชิงวัดเชียงใหม่ จ้อง นทท.ไทยตาเขม็ง
ชาวท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แห่ซื้อน้ำมันกักตุนใส่เครื่องปั่นไฟ หลังไทย ตัดกระแสไฟฟ้า
การเคหะแห่งชาติแถลงผลงานครบรอบ 52 ปี สร้างที่อยู่อาศัยกว่า 7.5 แสนหน่วย ผลประเมิน ITA 96.44 คะแนน ได้อันดับ 1 ของกระทรวง พม. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากรของ “ท็อป วราวุธ” รมว.พม.
มาดามแป้ง ร่วมเสวนา “Future Thailand : Soft Power” ในงาน “Chula Thailand Presidents Summit 2025” ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
"เซเลนสกี" แบะท่าคุย "ปูติน" จี้ "ตะวันตก" ส่งนิวเคลียร์ไว้กำราบรัสเซีย
ตร.คุมตัว "เจ้าของ รร.กวดวิชา" ขืนใจ "3 นร.หญิง" ฝากขังศาลปทุมธานี หลังปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอเชิญชวนร่วมกิจกรรม Workshop และประกวดคลิป TikTok ในหัวข้อ สร้างการรับรู้ เพื่อป้องกัน สู่ความปลอดภัย การใช้จุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ - รถยนต์ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 330,000 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 10 กุมภาพันธ์ 2568

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น