“ทนายด่าง” บุกกรมราชทัณฑ์ ทวงถามไฟล์วงจรปิดนาทียื้อชีวิต “บุ้ง ทะลุวัง” ยธ.คาดอีก 2-3 วัน จะได้ข้อสรุปฟ้องร้อง
ข่าวที่น่าสนใจ
24 พ.ค.67 นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางมาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อทวงไฟล์กล้องวงจรปิด ในวันที่นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ไม่ให้ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ โดยให้เหตุผล 3 ข้อ คือ 1.ภาพเคลื่อนไหวระหว่างการรักษา มีภาพของพนักงาน และเจ้าหน้าที่ จึงเกรงว่าจะกระทบ 2.เพื่อความมั่นคง เพราะภาพในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ คือ ‘เรือนจำ’ อาจเกี่ยวข้องกับความมั่นคง และ 3.กลัวว่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้ตาย
โดยกรมราชทัณฑ์แจ้งว่า ได้ทำหนังสือถึงพ่อแม่ ของนางสาวเนติพร แล้ว ระบุว่า หากต้องการมาดูภาพวงจรปิดให้ประสานเข้ามาภายหลัง ซึ่งนายกฤษฎางค์ ยืนยันว่าหนังสือดังกล่าวยังไม่เห็น และพ่อแม่ของนางสาวเนติพร ยังไม่ได้รับ นายกฤษฎางค์ ยังตกใจอยู่ที่วันนี้ไม่ได้รับไฟล์วงจรปิด คิดว่าจะมีการเบลอหน้าบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง แล้วมอบให้ตามที่ตกลงไว้
ซึ่งทางนายกฤษฎางค์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์เกรงว่าหากได้ภาพวงจรปิดไปแล้วจะนำไปเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน จึงไม่ให้ โดยหากต้องการภาพวงจรปิดดังกล่าว ต้องไปร้องอุทธรณ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และฟ้องศาลปกครองต่อไป ซึ่งตนเองอยากรู้ว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ก่อนนางสาวเนติพร จะเสียชีวิต เกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์ตรงกับที่กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงหรือไม่ มีการช่วยเหลือ พาไปเอกซเรย์ ทำซีทีสแกน และปั๊มหัวใจตลอดเวลา รวมถึงมีการรักษาที่มีมาตรฐานจริงหรือไม่ ซึ่งเราต้องการความจริง
สำหรับข้อกังวลของกรมราชทัณฑ์ที่เกรงว่าเมื่อได้ภาพวงจรปิดมาแล้วจะนำไปเผยแพร่นั้น ตนเองยืนยันว่าจะไม่เผยแพร่ต่อสื่อฯ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการนำมาวิเคราะห์ ร่วมกับเอกสารทั้งหมด นำภาพเคลื่อนไหวมาประกอบว่าตรงกันหรือไม่เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ สามารถขอเอกสารการรักษาบางส่วนมาได้แล้ว เพื่อนำมาวิเคราะห์ จึงขอถามไปถึงรัฐบาล และผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ว่าแน่ใจแล้วหรือที่จะไม่ให้ภาพจากกล้องวงจรปิด เท่ากับกรมราชทัณฑ์ปิดโอกาสตัวเองในการชี้แจงความบริสุทธิ์ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และโง่เขลา
นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า จากรายงานของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีความสมบูรณ์มากพอที่จะระบุว่า นางสาวเนติพร เสียชีวิตที่ไหน และนอกจากการใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหารแล้ว ยังมีข้ออื่น ๆ อีก ตอนนี้ขอเวลารวบรวม และจะเดินหน้าต่อ เชื่อว่าการปิดบังข้อมูลเหล่านี้ ไม่ได้แปลว่าจะปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้ สำหรับพ่อแม่ของนางสาวเนติพร เพียงแค่อยากรู้สาเหตุแท้จริงที่ลูกสาวเสียชีวิต รวมถึงหากมีการดูแลผู้ต้องขังที่ยังไม่พิพากษาว่าผิด อยากให้ดูว่าเกิดการผิดพลาดอย่างไร เพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครตายในระบอบนี้อีก เพราะกรมราชทัณฑ์มีหน้าที่ดูแลผู้ต้องขังทุกราย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นผลเสียต่อทางราชการแน่นอน โดยทราบมาว่ามีคำสั่งไม่ให้เปิดเผยภาพวงจรปิด เชื่อว่าเป็นคำสั่งจากบุคคลที่มีอำนาจมากกว่าโรงพยาบาลราชทันฑ์ ซึ่งพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้พูดเองตั้งแต่วันที่มาร่วมงานศพนางสาวเนติพร ว่า สามารถให้ข้อมูลได้ ไม่มีปัญหา และนายกฯ ก็สั่งมาให้ทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส ซึ่งตนเองก็งงว่ามีใครที่มีอำนาจมากกว่านายกฯ หรือไม่ เรื่องนี้ซุกไว้ใต้พรมไม่ได้ ถ้าเปรียบเทียบกับนักการเมือง หรือเศรษฐี ที่ส่งตัวไปรักษาอาการที่ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ อาการเบากว่า นางสาวเนติพร เยอะ เราตั้งใจหาข้อเท็จจริง เอกสารที่ได้รับมาตอนนี้ ยังมีข้อสงสัยหลายประเด็น แต่จะรวบรวมอีกครั้ง ส่วนเรื่องการฟ้องร้องหลังจากนี้ จะสรุปให้เร็วที่สุด คาดว่า 2-3 วัน จะได้ข้อสรุป ตอนนี้เอกสารทั้งหมดครบแล้ว เหลือเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายกฤษฎางค์ ฝากทิ้งท้ายถึงพันตำรวจเอกทวี ว่า “การที่หน่วยงานของท่านปิดบัง อาจหมายความว่าท่านปิดบังด้วย เพื่อให้โปร่งใส ขอแนะนำว่าเปิดเถอะ ใครผิดก็ว่าไปตามผิด”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น