รองผบช.น. ยันชัด จนท.ไม่ได้ทำร้ายม็อบทะลุแก๊ส จนร่วงตกจากหลังคา

รองผบช.น. ยืนยัน เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ไม่ได้ทำร้ายกลุ่มทะลุแก๊สจนร่วมตกจากหลังคา ระบุ พร้อมเปลี่ยนยุทธวิธี หากม็อบยกระดับความรุนแรง

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติงาน การควบคุมสถาการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 11 กันยายน มีการจัดกิจกรรม 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เวลา 14.50 น. ได้มายื่นหนังสือที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สนั้นมีการรวมตัวกันในเวลา 17.00 น.ก่อนที่จะมีการขว้างปาปะทัดและพลุ อย่างต่อเนื่องกระทั้งเวลา 21.15น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้เข้าควบคุมสถานการณ์อย่งต่อเนื่อง

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากการเข้าควบคุมสถาการณ์กลุ่มผผุ้ชุมนุมทะลุแก๊สวานนี้สามารถควบคุมผผุ้ชุมนุมได้ทั้งหมด 52 ราย เป็นผู้ใหญ่ 43 ราย เยาวชน 9 ราย และในจำนวน 52 รายมีชาวกัมพูชา 2 รายซึ่งหลังจากนี้จพดำเนินคดี และส่งตัวกลับประเทศอีกทั้งจะมีขึ้นแบ็คลิสห้ามไม่ให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยอีก ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจคควบคุมฝูงชนที่ปฏิบัติหน้าที่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย มีอาการสาหัส 1 ราย คือ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ อายุ 28 ปี สังกัด ผบ.หมู่.บก.อคฝ. ซึ่งถูกกลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาระเบิดเข้าใส่บริเวณด้านหน้าซีกขวา ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งจากผลการรักษาพบว่า กระดูกใบหน้าด้านขวาได้รับอันตราย และดวงตาข้างขวาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกระเบิด

ส่วนกรณีที่มีการข้อมูลแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมจนเป็นเหตุให้ตกลงมาจากหลังคาบ้านเรือนประชาชน จากการตรวจสอบพบว่าไม่เป็นความจริง แต่เป็นการที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำของแข็งมาขว้างปาบนหลังคา เพื่อที่จะหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเรียกตัวเจ้าของบ้านมาสอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่ที่บริเวณชั้นล่าง ไม่ได้ขึ้นไปบนแฟลต หรือบนหลังคาบ้านเรือนประชาชน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพูดคุยกับประชาชนชาวแฟลตดินแดง เพื่อทำความเข้าใจ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ได้กล่าวถึงสถาการณ์การชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สในวันนี้ ที่มีการประกาศยกระดับความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจะมีการปรับยุทธวิธีตามสถานการณ์ และเน้นความปลอดภัยของตำรวจ พี่น้องประชาชน ผู้ถูกจับกุมต้องได้รับความปลอดภัย ก่อผลกระทบให้น้อยที่สุด

ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 203 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 754 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 509 คน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า
มัสก์จี้ข้าราชการอเมริกันเขียนรายงานวันๆทำอะไรบ้าง
ผู้ปกครองพา "ด.ช.วัย 13" ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวสอง สร้างไอจีปลอม ลวงทำอนาจาร
"ทักษิณ" เอ่ยขออภัยเหตุการณ์ "ตากใบ" ปี 47 ลั่นไม่ตกใจ เหตุบึ้มรถในสนามบินนราฯ รับลงชายแดนใต้
“ทักษิณ” ลั่นปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องจบในรัฐบาลนี้ ยึดการพูดคุย เป็นแนวทางสร้างสันติสุข
เลขาธิการ สปส. แจงเสถียรภาพ "กองทุนประกันสังคม" ย้ำชัดสิทธิประโยชน์ดีเพิ่มขึ้นทุกปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น