ผ่าแผนสำรอง "เศรษฐา" ปลิว ใคร "นายกฯขัดตาทัพ" ตัดทิ้ง "ก้าวไกล" ฝันละเมอร่วมรัฐบาล "ซุเปอร์นายกฯ" ไม่เสี่ยงส่ง "กล่องดวงใจ" เป็นนายกฯสำรองไม่พร้อมตีจาก "ฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่" สลับขั้วร่วมรัฐบาลแดงส้มเมื่อไร ฉีกทิ้งไปเลยแผนพาน้องสาวกลับบ้าน

TOP News ทันทีที่ปิดจ็อบภารกิจในต่างประเทศเครื่องบินแลนดิ้ง “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วน เกณฑ์เซียนกฎหมายรัฐบาลกันมาหมดทุกสำนักเพื่อจับเข่าคุยถกเครียดกันในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์นี้ เพื่อผ่าทางตันและทะลวงทางออกเพื่อให้พ้นบ่วงปมแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” อดีตรัฐมนตรี พ่นพิษให้ต้องพลอยติดร่างแหไปด้วย แม้ “พิชิต” จะชิงลาออกไปแล้ว แต่คดีที่ “40สว.” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนปมทำผิดจริยธรรมแต่งตั้งคนมีตำหนิขึ้นทูลเกล้าฯ ทำให้เกมนี้ยังไม่จบลงง่าย ๆ เพราะอำนาจสอยร่วง “นายกฯเศรษฐา” อยู่ในอุ้งมือตุลาการ 9 ท่าน คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนปิดแฟ้มและตัดสินชะตาว่า “นายกฯเศรษฐา” จะอยู่หรือไป?

ข่าวที่น่าสนใจ

“ทักษิณ” ขยับหลังศาลรธน.รับคำร้อง 40 สว. สอย “เศรษฐา” โว รู้หมดใครอยู่เบื้องหลัง

อดีตบิ๊ก ศรภ. เผย 5 เหตุผล “เศรษฐา” ได้ต่อลมหายใจในตำแหน่งชั่วคราว

ตัดจบแผนสำรอง “เศรษฐา” ปลิว ใครนายกฯขัดตาทัพ ทิ้ง “ก้าวไกล” ฝันละเมอร่วมรัฐบาล

ไม่เสี่ยงส่ง “กล่องดวงใจ” เป็น “นายกฯขัดตาทัพ”ไม่พร้อมตีจาก “พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่”

แม้ “นายกฯเศรษฐา” จะการันตีหนักแน่นว่า ไม่มีแผนสำรองเพราะมั่นใจว่ารอดคมดาบ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ไปได้ซึ่งลึก ๆ แล้ว “นายกฯเศรษฐา” กังวงอยู่ไม่ใช่น้อยว่าจะไม่ได้มูฟออน ดังนั้นหลังจากนี้ภายใน 15 วัน เชื่อว่ารัฐบาลต้องปิดเกมเร็วยื่นเอกสารหลักฐานให้เป็นที่เรียบร้อยไม่ยื้อเวลาผัดผ่อนออกไปเนิ่นนาน ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นทำให้ต่างชาติหรือนักลงทุนมองว่า รัฐบาลไทยอยู่ในช่วงสุญญากาศ

เช่นเดียวกับ กล่องดวงใจ “นายใหญ่เพื่อไทย” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว ยอมรับว่าไม่ได้เตรียมความพร้อมเรื่องที่จะมาเป็น “นายกฯขัดตาทัพ” เพราะคิดว่าไม่จำเป็น “นายกฯเศรษฐา” ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้

แต่หาก “นายกฯเศรษฐา” เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมาจริง ๆ จำต้องเฟ้นหา “นายกฯคนใหม่” ชำแหละขั้นตอนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ตามที่รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ขั้นตอนแรกต้องล่ารายชื่อพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มาให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 หรือ 25 เสียง และมีผู้รับรองในการเสนอไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 หรือ 50 เสียง การันตีได้เลยว่า จะมีเพียง 4 พรรคเท่านั้นที่มีสิทธิ์เสนอชื่อ “นายกรัฐมนตรี” นั้นคือ พรรคเพื่อไทย , พรรคภูมิใจไทย , พรรครวมไทยสร้างชาติ และ พรรคพลังประชารัฐ ที่เหลือเป็นเพียงไม้ประดับในสภา โดยเฉพาะ “พรรคก้าวไกล” กับ “พรรคประชาธิปัตย์” นั่งตบยุงเป็นฝ่ายค้านต่อไป เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น

ยิ่งการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่รอบนี้ ตัดทิ้งสิทธิ์โหวตนายกฯของ “สว.” 250 คน ไปได้เลยเพราะหมดวาระไปแล้ว เหลือแต่พรรคการเมืองเพียว ๆ ที่จะเข้ามาเล่นเกมชิงอำนาจทางการเมือง โดยพรรคการเมืองที่มีสิทธิ์ต้องใช้เสียง ส.ส.ให้ความเห็นชอบ “นายกรัฐมนตรี” มากกว่ากึ่งหนึ่งของ ส.ส. นั้นคือ 250 เสียงขึ้นไปจากทั้งหมด 500 เสียง

เช็กรายพรรค เริ่มที่ “พรรคเพื่อไทย” มี ส.ส. 141 เสียง มีแคนดิเดตนายกฯ ถึง 3 คน คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค และ “ชัยเกษม นิติสิริ” ตัด “นายกฯเศรษฐา” ออกไปได้ ในกรณีสุดวิสัยพ้นเก้าอี้นายกฯ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ “พรรคก้าวไกล” มี สส.ในกำมือถึง 151 เสียง มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวโดดๆ นั้นคือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน” แต่พรรคก้าวไกลชะตากรรมร่อแร่ จากคดีล้มล้างการปกครองฯ นับถอยหลังอวสานยุบพรรคเตรียมม้วนเสื่อกลับบ้าน โอกาสที่จะส่งชื่อเข้าประกวด “แคนดิเดตนายกฯ” ริบหรี่เหลือเกิน จึงไม่ผิดคาดเหตุใดระยะหลัง “พรรคก้าวไกล” จึงออกอากาสทอดสะพานให้ท่า ทำเป็นญาติดีกับ “พรรคเพื่อไทย” หวังว่าจะเกิดเกมพลิก “พรรคเพื่อไทย” เจออุบัติเหตุการเมือง “นายกฯเศรษฐา” ตกเก้าอี้จะมาจับมือกับ “พรรคก้าวไกล” โหวต “อุ๊งอิ๊ง” หรือ “ชัยเกษม นิติสิริ” เป็นนายกรัฐมนตรี ตามสมการการเมือง 151 บวก 141 เท่ากับ 292 เสียงตั้งรัฐบาลแดงส้ม จึงรอลุ้นว่าเมื่อไร “เพื่อไทย” จะสลับขั้วตีจาก “ฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่” มาจับมือกับ “ก้าวไกล” เสียที

สลับขั้วร่วมรัฐบาลแดงส้มฉีกทิ้งไปเลยแผนพาน้องสาวกลับบ้าน

สแกนพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่ ไล่ตั้งแต่ พรรคภูมิใจไทย มี ส.ส. 71 เสียง แคนดิเดตนายกฯ คือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” , พรรคดีเอ็นเอ “บิ๊กตู่” พรรครวมไทยสร้างชาติ มี ส.ส. 36 เสียง มีแคนดิเดตนายกฯ 2 คน นั้นคือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” แท้จริงเหลือเพียงคนเดียว คือ “พีระพันธุ์” เพราะ “บิ๊กตู่” ล้างมือในอ่างทองคำวางมือทางการเมือง ไปเป็น “องคมนตรี” คนสุดท้าย “พรรคพลังประชารัฐ” มี ส.ส. 40 เสียง แคนดิเดตนายกฯ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค

ตัดจบ ว่าที่นายกรัฐนตรีใหม่” คนที่ 31 มีลุ้นได้เพียง 5 คนเท่านั้น คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร , ชัยเกษม นิติสิริ , อนุทิน ชาญวีรกูล ,พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่วน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นได้แค่ไม้ประดับ

ขณะที่ “รัฐบาลสลายขั้ว” ปัจจุบันผนึกกันได้ 314 เสียง โดยมี “พรรคเพื่อไทย” เป็นหัวหอกรัฐบาลต่อไปเพลย์เซฟกว่าเยอะ ส่วน “ผู้นำสูงสุดเพื่อไทย”จะเลือกใคร ระหว่าง “อุ๊งอิ๊ง” หรือ “ ชัยเกษม นิติสิริ” ตัวเลือกหลังสุดน่าจะเป็นไปได้มากกว่า หากถึงจุดสุดวิสัย ต้องเฟ้นหานายกฯขัดตาทัพ

ในทางการเมืองเชื่อกันว่ามี 2 เหตุผล ทำไม “ผู้นำสูงสุดเพื่อไทย” ไม่น่าจะเสี่ยงส่ง “กล่องดวงใจ” เข้ามาเป็น “นายกฯขัดตาทัพ” และ ยังไม่พร้อมตีจาก “พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่” แล้วไปญาติดีกับ “พรรคก้าวไกล” ที่รอให้ท่าอยากร่วมรัฐบาลเต็มแก่

เพราะอย่าลืมว่าช่วง “ทักษิณ” กลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เคยพูดว่า สงกรานต์ปีหน้าจะพาน้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระหกระเหินอยู่ต่างแดนเพราะติดคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว กลับมาฉลองปีใหม่ไทยในปีหน้าให้จงได้ หากไปสลับขั้วตั้งรัฐบาลแดงส้มกับ “พรรคก้าวไกล” ฉีกทิ้งแผนกลับบ้านของน้องสาวไปได้เลย แต่หากยังเกาะเกี่ยวกันเหนียวแน่นกับ พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่ การกลับบ้านของ “ยิ่งลักษณ์ “ สามารถใช้โมเดลเดียวกับพี่ชายได้ เพียงแค่รอโอกาสทองเท่านั้น ว่าจะเป็นเมื่อไร นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้าย่อมรู้ดี

อีกเหตุผลทางการเมือง ณ ขณะนี้ “กล่องดวงใจนายใหญ่” ยังไม่พร้อม วัดได้จากผลสำรวจคะแนนนิยม “นายกฯโพล” กระแสส้มฟีเวอร์ “พิธา” และ พรรคก้าวไกล ยังฮอตอยู่! นำโด่งถึง 39% รองลงมาเป็น “นายกฯเศรษฐา” ตามไล่จี้ 22% ส่วนอันดับ 3 ยังคิดไม่ออกว่าเป็นใคร แต่อันดับ 4 เป็น “อุ๊งอิ๊ง” เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ชื่นชอบพรรคและนโยบายพรรคเพื่อไทยทั้งยังชื่นชมผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตร

หรือแม้แต่ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำโพลสำรวจว่าหากวันนี้พรุ่งนี้มีการเลือกตั้งขึ้นมาจริง ๆ แต่ละพรรคจะกวาดเก้าอี้ สส.ในสภาได้กี่คน เห็นตัวเลขแล้ว ทั้ง”พรรคเพื่อไทย” และ พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่ถึงกับปาดเหงื่อมือก่ายหน้าผาก เมื่อรู้ว่า “พรรคก้าวไกล” ได้ 196 เสียง , พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 42 เสียง , พรรคพลังประชารัฐ ได้ 28 เสียง , พรรคภูมิใจไทย ได้ 77 เสียง , พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 10 เสียง และ ไฮไลท์ที่สุด คือ “พรรคเพื่อไทย” ได้ 106 เสียง คิดเป็นสมการการเมืองฟอร์มรัฐบาล ด้วยตัวเลขของ พรรคเพื่อไทย ผนึกกับ พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมเดิม ได้ 263 เสียง ตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ !

ดังนั้น “กล่องดวงใจนายใหญ่” ยังไม่พร้อมที่จะขึ้นบัลลังก์นายกรัฐมนตรีขัดตาทัพ จำต้องรอให้ฝึกวิทยายุทธแกร่งกล้ากว่านี้ ปลุกปั้นกระแสความนิมอย่างที่ “ผู้นำสูงสุดพรรคเพื่อไทย” เดินสายโกยเรตติ้งกระแสเสื้อแดงให้กลับคืนมา ทวงแชมป์คืนในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นที่เคยพลาดท่าไป รวมถึงสรภูมิล่าสุดในศึกชิงบัลลังก์สภาสูง เลือก สว. 200 คน เพราะระดับบิ๊กเนมเบอร์ต้น ๆ อย่าง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 น้องเขย “ทักษิณ” คนระดับนี้ลงมาเล่นเองย่อมไม่ธรรมดา รวมถึงรอปิดดีลพา “อาปู” กลับบ้านก่อนถึงเวลานั้นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของกล่องดวงใจนายใหญ่เพื่อไทยก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง