“ทนายอนันต์ชัย” จัดหนักเปิดโปงความจริง เตรียมยื่นอัยการสูงสุด สอบปม “เจ้าลัทธิเชื่อมจิต” ด้านพศ.พบคลิปเด็ด มั่นใจสอยตกสวรรค์ยกก๊วน Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
26 พ.ค.2567 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พรุ่งนี้ วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ อาคาร A
ผมจะไปยื่นหนังสือร้องเรียน อัยการสูงสุด เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของอัยการฯ จังหวัดสุราษฎ์ธานี บางท่าน เรื่อง “เจ้าลัทธิเชื่อมจิต” !!!!
ผมอยากกราบเรียนท่านอัยการฯ บางคนว่า ผมและมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ไม่ได้รังแกใคร หรือทำให้ใครเสียหาย แต่ทำเพื่อรักษาสถาบันหลักของชาติ คือศาสนา (ศาสนาพุทธ) ผมจึงตรวจสอบท่านครับ
พรุ่งนี้ ผมจะเปิดเผยความจริงที่ยังไม่มีใครู้ รับรอง ซ๊อก !!! ทั้งประเทศ อย่ากระพริบตา !
ขณะที่ทางด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณี “ลัทธิเชื่อมจิต” ซึ่งทางสำนักพุทธได้มีการออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า ไม่ปรากฎหลักฐาน ในพระไตรปิฎก และการกล่าวอ้างว่า เป็นลูกพระพุทธเจ้า ก็ไม่ตรงกับพระไตรปิฎก จึงได้มอบหมายให้ทางผู้อำนวยการนิติกร ของสำนักพุทธฯ รวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งก็ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีหลักฐาน ที่ส่อว่าการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เข้าข่ายนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยคณะทำงานได้เร่งถอดเทปย้อนหลัง รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนแจ้งความดำเนินคดี ต่อ สภ.พุทธมณฑล ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ภายในสัปดาห์หน้า นอกจากแจ้งดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการลัทธิเชื่อมจิตแล้ว ยังเตรียมแจ้งเบาะแสประเด็นเดียวกันนี้ ไปยังตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดอีกช่องทางหนึ่งด้วย
ส่วนทางด้านเพจนิรมิตเทวาจุติ เคลื่อนไหวทันที โดยโพสต์ข้อความระบุว่า จากกรณีที่เป็นข่าว ว่า ท่าน ผอ.สำนักพุทธฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เรามีความกังวลว่า ทางสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ อาจจะได้รับข้อมูลที่บิดเบือน จากคู่กรณีที่เป็นความกัน และอาจทำให้เกิดความเสียหาย กับ อาจารย์น้องไนซ์ ครอบครัว และทีมนิรมิตเทวาจุติได้
วันนี้ (26 พ.ค.) ทางฝ่ายกฎหมายของนิรมิตเทวาจุติ ได้ประสานงาน ไปยังทีมกฎหมาย ของ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และได้แจ้งความประสงค์ ดังนี้ ภายในวันที่ 28 พฤษภาคม 67 จะนำพยานหลักฐาน ที่เป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ที่เกิดขึ้นจริง ทั้งในส่วนของที่มา ส่วนของวิธีการ และส่วนของหลักคำสอน ไปมอบให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อประกอบการพิจารณา ในการทำความเห็น และหลังจากนั้น ในวันที่ 5 มิถุนายน 67 เมื่ออาจารย์น้องไนซ์ ได้เดินทางมาที่กรุงเทพฯ ก็จะขอไปเข้าพบผู้ใหญ่ หรือผู้บริหาร ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ด้วยตนเอง เพื่อให้ท่านเหล่านั้น ได้สอบถามสภาวะธรรม เพื่อให้เป็นประจักษ์ ว่า อาจารย์น้องไนซ์ มีภูมิธรรมภูมิปัญญาในระดับใด ทำไมจึงมีคนมาศรัทธา เป็นจำนวนมาก และจะได้เห็นชัดในข้อเท็จจริงว่า คำสอนที่เป็นหลักคำสอนนั้น ไม่ได้ขัด และไม่ได้แย้ง ต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า
สำหรับในวันที่ 4 มิถุนายน 67 ก็ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า จะเดินทางเข้าไปที่กระทรวง พม. เพื่อขอพบท่านรัฐมนตรีฯ เพื่อแถลงข้อเท็จจริงให้ท่านทราบ และเพื่อให้ท่านรัฐมนตรีฯ ได้พูดคุย สอบถาม สภาวะ ความเป็นอยู่ สภาวะด้านจิตใจ ในเรื่องของสวัสดิภาพของ อาจารย์น้องไนซ์โดยตรง เพื่อให้ท่านได้ใช้ในการประกอบดุลยพินิจพิจารณา ว่ากิจกรรมการปฎิบัติธรรม ที่อาจารย์น้องไนซ์และครอบครัว ได้สอนสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ขัดต่อสวัสดิภาพของของเด็ก หรือของอาจารย์น้องไนซ์ และเพื่อให้ท่านรัฐมนตรีฯ ได้ทราบถึงที่มาที่ไป ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะทางเราก็มีความกังวลว่า อีกฝ่ายที่ไปร้อง ไม่ได้นำข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงไปมอบให้ อันจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
ดังนั้นจึงยืนยันเช่นเดิม ในวันที่ 4 มิถุนายน 67 เวลา 10.00 น. มีนัดเจอกันที่ พม. จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
ต่อมา ทางเพจได้โพสต์ด้วยความไม่พอใจว่า “ข่าววงในแจ้งมาว่า พากันวิ่งให้วุ่น เพื่อสกัดกั้น ไม่ให้ อ.น้องไนซ์ เจอผู้ใหญ่” ก็ไม่รู้ว่าวงในที่ว่านี้ เป็นวงไหนกันแน่ ต้องรอติดตามกันว่า คณะเชื่อมจิต จะได้เข้าพบผู้หลักผู้ใหญ่ตามที่ได้แจ้งหมายไว้หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น