ตร.เอาจริง เตือนสิงห์นักบิดสายหมอบรู้ไว้ โดนจับโทษหนัก

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ย้ำเอาจริง ผู้ขับขี่รถในลักษณะประมาทหวาดเสียว ยกตัวอย่างคดี “สายหมอบ” เป็นกรณีศึกษา ชี้โดนโทษหนักตามกฎหมาย ศาลสั่งทั้งจำทั้งปรับ และคุมประพฤติ 1 ปี

ตร.เอาจริง เตือนสิงห์นักบิดสายหมอบรู้ไว้ โดนจับโทษหนัก – Top News รายงาน

 

 

วันนี้ (27 พ.ค. 67 ) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง กวดขันวินัยจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุและลดความสูญเสียที่เกิดจากความประมาท ละเลยกฎจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด กรณีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เพจ “ก้าว หน้า” ได้โพสต์คลิปขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะนอนขับขี่ (หมอบ) บนถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า กรุงเทพมหานคร คณะทำงานฯ จึงได้ มีการประสานข้อมูลบูรณาการร่วมกับกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3)และสน.ร่มเกล้า ท้องที่เกิดเหตุ สืบสวนสอบสวนจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นายกฤษฎา

 

สอบสวนเบื้องต้น ให้การว่า ทำไปเพราะเกิดนึกสนุกบวกกับความ คึกคะนอง จึงปรากฏภาพออกไปในลักษณะดังกล่าว จากนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งฟ้องต่อศาล ในข้อหา “ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ” ต่อมาศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติรายงานตัวทุก 3 เดือน เป็นเวลา 1 ปี บริการสังคม 12 ชั่วโมง

เตือนสิงห์นักบิดสายหมอบ

พล.ต.ท.สำราญ ยังย้ำว่า คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้วางแนวทางการดำเนินคดีอย่างเข้มงวด กับผู้ขับขี่ในลักษณะนี้ คือนอนหมอบขับขี่ ซึ่งเป็นการขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น เป็นอันตรายและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นเป็นอย่างมาก และศาลมีแนวทางคำพิพากษาลงโทษหนัก ทั้งผู้ขับขี่และเจ้าของรถ ทั้งนี้ ยังได้ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลฯ ต่างๆ รวมทั้งการรวมตัวกันบนท้องถนนที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยพี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเหตุได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สถาบันฯ สร้างสรรค์ และซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดัน “จังหวัดจันทบุรี” เป็น “Soft Power” ระดับประเทศ
นพ.สสจ.เมืองคอนเตือน ระมัดระวังโรคฉี่หนู เมืองคอนสังเวยชีวิตแล้ว 8 ราย ชี้อำเภอฉวางสุ่มเสี่ยงมากที่สุด เสียชีวิตถึง 7 ราย -เตือนประชาชนประชาชนรักษาสุขภาพและเฝ้าระวังโรคที่จะมากับหน้าฝนนอกจากฉี่หนูแล้วให้ระมัดระวังให้โรคไข้เลือดออก
"เงินดิจิทัล เฟส 2 ได้วันไหน" ชัดเจนแล้ว พร้อมเช็ก เงื่อนไขเงิน 10,000 ล่าสุด
CPF สานต่อความมุ่งมั่นสร้างงานมีคุณค่าสำหรับคนพิการ หนุนวัฒนธรรมเคารพความแตกต่างและหลากหลาย
หมอวรงค์ นำกลุ่มคนรักชาติ ยื่นกว่าแสนรายชื่อ ร้องรบ.ยกเลิก MOU 44
กุ้ง อาหารทะเลยอดฮิต โปรตีนคุณภาพดี อร่อยด้วย ช่วยชาติได้
หมอถึงขั้นเข้าไปถามคนไข้ หลังพยาบาล เจาะเลือดไม่เข้า อึ้งห้อยพระเต็มคอ แต่ละองค์ราคาไม่ธรรมดา
“บิ๊กโจ๊ก” ด่าแรง “ทนายตั้ม” แอบอ้างชื่อ ลวง “เจ๊อ้อย” ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน
“เจ๊อ้อย”โคตรแค้น “ทนายตั้ม” พาลูกเมียทัวร์ยุโรปถลุงเป็นล้าน แว้งกัด-คิดเอาชีวิต
รัฐบาลเพิ่ม 73,388 ที่นั่ง แก้ตั๋วเครื่องบินแพงช่วงปีใหม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น