หนุ่มเมียนมาทะเลาะภรรยา ผูกคอดับคาแคมป์คนงาน ทิ้งจดหมายสั่งลาฝากดูแลลูก

หนุ่มเมียนมาทะเลาะภรรยา ผูกคอเสียชีวิตคาแคมป์คนงานย่านประชาอุทิศ ทิ้งจดหมายสั่งลาฝากดูแลลูก

หนุ่มเมียนมาทะเลาะภรรยา ผูกคอดับคาแคมป์คนงาน ทิ้งจดหมายสั่งลาฝากดูแลลูก – Top News รายงาน

 

หนุ่มเมียนมาทะเลาะภรรยา

วันนี้ 27 พฤษภาคม 2567 เวลา 07.15 น. ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุชายชาวเมียนมาผูกคอเสียชีวิต ภายในแคมป์พักคนงานก่อสร้างท้ายซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพ จึงไปตรวจสอบ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นลักษณะบ้านไม้ชั้นเดียว บริเวณหน้าบ้านพบศพนายไซบาร์เอ้ หรือนาย ปรี อายุ 35 ปี เป็นชาวเมียนมา มีอาชีพเป็นช่างทาสี ผูกคอเสียชีวิตในลักษณะยืนหย่อนตัวลงมา โดยใช้เชือกผ้าสีเหลืองผูกกับคานหลังคา สวมเสื้อคอกลมแขนกุดสีน้ำเงินขาสั้นสีดำ มีบาดแผลแตกที่คิ้วด้านขวา มีเลือดไหลออกมาจนแห้งเกรอะกรังอาบแก้ม และมีบาดแผลถลอกที่ข้อศอกด้านขวาที่ข้อมือพบลอยเลอะเปื้อนอยู่ด้วย ภายในห้องพักของผู้ตายไม่ได้ล๊อคกุญแจประตูเปิดอยู่ พบจดหมายผู้ตายบริเวณข้างที่นอนเขียนวางเอาไว้โดยเขียนบนกระดาษทิชชู่เป็นภาษาพม่า ซึ่งแปลออกมามีใจความว่าดังนี้ ตนยกโทษให้ภรรยาที่ทะเลาะกัน แล้วฝากดูแลลูกด้วย

ผูกคอดับคาแคมป์คนงาน

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการสอบถาม นางสาว เจง อายุ 35 ปี เป็นชาวเมียนมา และเป็นภรรยาของผู้ตาย กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่กับผู้ตาย ตนเพิ่งจะมาทำงานที่ประเทศไทยได้ประมาณ 1 เดือน ช่วงที่ผ่านมาก็มักจะมีปากเสียงกันอยู่บ่อยๆผู้ตายเป็นคนชอบดื่มเหล้าพอเมาก็จะหาเรื่องโทรมาทะเลาะกับตนเป็นประจำ ตนเคยบอกกับผู้ตายว่าทำไมต้องดื่มเหล้าด้วยทำไมไม่ตั้งใจทำงานแล้วก็เก็บเงินเพื่อที่จะส่งไปใช้หนี้ใช้สิน แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน แล้วสามีก็ชอบโทรมาหาในเวลากลางคืนซึ่งตนทำงานมาก็เหนื่อยมาแล้ว ตอนเช้าต้องทำงานด้วย จึงบอกกับเขาว่าถ้าไม่มีอะไรก็อย่าโทรมาถ้าตนว่างจะโทรไปหาเอง

 

ส่วนสาเหตุการตายนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเขาเครียดเรื่องอะไรแต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาทำแบบนี้มาทิ้งให้ตนต้องเลี้ยงดูลูกโดยลำพังแล้วหนี้สินที่บ้านก็มีเยอะแยะ ส่วนที่ตนรู้ว่าสามีของตนมาผูกคอตายก็เพราะว่าหัวหน้างานของเขาโทรมาบอกตนก็เลยรีบมา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวช ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งที่นิติเวช และจะให้ญาตินำเอกสารมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แกนนำภูมิใจไทย" ผนึกกำลังหาเสียง หนุน "ไสว" ชิงเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีฯ มั่นใจผลงานพรรค
"ดีเอสไอ" จ่อเรียกสอบ 40 วิศวกร คดีตึกสตง.ถล่ม
"ฉก.ลาดหญ้า" ยันเหตุปะทะในประเทศเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบชายแดนไทย
บางจาก ศรีราชา และ GISTDA ผนึกกำลังกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมสร้างอนาคต นกกาฮัง และ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น