รัฐบาลเลือกใช้บริการ "เนติบริกร" ค้ำเก้าอี้ "เศรษฐา" ฝ่าวิบากกรรมคดีตั้ง "รมต.มีตำหนิ" ผ่า3ทางออกคดี 112 "ทักษิณ" เลื่อน สั่งฟ้อง ยกฟ้อง จับตาหวยออกทางไหน
ข่าวที่น่าสนใจ
รัฐบาลเลือกใช้บริการ “เนติบริกร” ค้ำเก้าอี้ “เศรษฐา” ฝ่าวิบากกรรมคดีตั้ง “รมต.มีตำหนิ”
สำหรับ “นายกฯเศรษฐา” ที่เจอปัญหากวนใจไร้สมาธิทำงานบริหารประเทศจากปมโดนหางเลขเพราะไปตั้ง “รัฐมนตรี” มีมลทิน “พิชิต ชื่นบาน” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดจริยธรรมและขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เข้าทาง “40สว.” ยื่นดาบให้ศาลรัฐธรรมนูญฟัน!
ล่าสุด “สมชาย แสวงการ” 1 ใน 40 สว.ออกมาขย่มซ้ำแบบไม่กลัวโดนเช็กบิลย้อนหลัง ด้วยการ กล่าวว่า ยังไงไม่ถอนชื่อแม้จะมีแรงกดดันมากเพียงไรก็ตาม เพราะ “นายกฯ” ต้องรับผิดชอบต่อการนำรายชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ ถ้ารู้ว่านายพิชิตมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ แต่ยังนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ นายกฯ ก็จะมีความผิดจริยธรรมร้ายแรง
นับถอยหลัง “นายกฯเศรษฐา” เหลือเวลาไม่ถึง 15 วันต้องชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญให้เคลียร์ นับเป็นช่วงเวลาบีบหัวใจสุ่มเสี่ยงตายน้ำตื้น จึงไม่แปลกหาก “นายกฯเศรษฐา” เลือกไปซูฮกเซียนกฎหมายขั้นเทพอย่าง “อาจารย์วิษณุ” เพราะอย่าลืมว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับปราบโกง ผู้ที่ปลุกปั้นรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นั้นคือ “วิษณุ เครืองาม” ฉายา “เนติบริกร” ยุคทักษิณนั้นเอง หากจำกัดได้ เพียง 2 สัปดาห์หลัง “บิ๊กตู่” ยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 ตั้ง “วิษณุ” ร่วมกับ “มีชัย ฤชุพันธุ์” เข้ามารับหน้าที่ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
“อาจารย์วิษณุ” เคยเล่าประสบการร่วมงานรัฐบาลผ่านสื่อมวลชนว่า รัฐบาล “อานันท์ ปันยารชุน” เสียเวลาครึ่งหนึ่งของรัฐบาลไปกับการแก้ปัญหาศึกตุลาการ , รัฐบาล “พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์” เสียงบประมาณ และใช้เวลาไป กับการแก้ปัญหาน้ำท่วมใน 48 จังหวัดจนเกือบจะไม่ได้ทำอย่างอื่น หรือแม้แต่ รัฐบาล “สมัคร สุนทรเวช” และ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ไม่ได้ทำอะไรนอกจากการแก้ปัญหาม็อบ แม้แต่รัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เช่นกันหมดเวลาไปกับการแก้ปัญหาม็อบสีเสื้อ การผลักดันนโยบายสำคัญออกมาได้แค่บางส่วน
ดีกรี “อาจารย์วิษณุ” เป็นผู้รู้ด้านกฎหมายและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ไทย คลุกคลีในทุกวงการตั้งแต่นักธุรกิจ นักการเมือง และชนชั้นนำ เคยเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีถึง 9 นายกรัฐมนตรี ที่สำคัญเป็นคนตรวจประวัติและคุณสมบัติรัฐมนตรีทุกคนก่อนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ลงนามด้วยลายมือตัวเองรับรอง “รัฐมนตรี” นับพันคน ก่อนพาไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ทั้งยังทำงานพัวพันกับประมุข 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายบริหาร , นิติบัญญัติ และ ตุลาการมาแล้วกว่า 40 ปี ดังนั้น “อาจารย์วิษณุ” จึงพอเดาทางออกว่า คดีของ “นายกฯเศรษฐา” จะรอด หรือ ร่วง?
จึงไม่แปลกทำไมมาวันนี้ “อาจารย์วิษณุ” กลับมาเป็นกุนซือให้กับรัฐบาลเศรษฐาอีกครั้ง
ผ่า3ทางออกคดี 112 “ทักษิณ” เลื่อน สั่งฟ้อง ยกฟ้อง จับตาหวยออกทางไหน
อีกผู้นำที่ต้องลุ้นระทึกว่าจะรอด หรือ ร่วง? นั้นคือ “ทักษิณ” กองเชียร์เสื้อแดงใจเต้นรัว เพราะในวันพุธที่ 29 พฤษภาคมนี้ “อัยการสูงสุด” นัดฟังคำสั่งคดีที่เคยถูกอดีตอัยการสูงสุด สั่งฟ้องในความผิดข้อหามาตรา 112 เมื่อปี 2558 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลีใต้ ในทางการเมืองจึงเดาทางกันว่า น่าจะออกมาใน 3 ทาง ดังนี้ 1.อัยการสูงสุดเลื่อนการสั่งคดีออกไปก่อน 2.อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง และ 3.อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง เช็กท่าทีของ “วิญญัติ ชาติมนตรี” ทนายความ “ทักษิณ” ในคดี 112 ยังไม่รู้ตัวเลย ว่าคดีของเจ้านายตัวเอง จะออกหัว หรือ ก้อย ?
สำหรับ คดี “ทักษิณ” ย้อนไทม์ไลน์ไปเมื่อ ปี 2558 “ทักษิณ” จ้อสื่อเกาหลีใต้ พาดพิงสถาบัน ต่อมา “กองทัพบก” แจ้งความเอาผิด จนถึง ปี 2559 ตำรวจส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุด และ อัยการสั่งฟ้องคดี 112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ จนกระทั่ง “รัฐบาลเพื่อไทย” กลับมาเรืองอำนาจ ในปี 2566 วันที่ 22 สิงหาคม “ทักษิณ” เดินทางกลับประเทศ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คดีมาตรา 112 จึงเริ่มขยับ โดย “ทักษิณ” ให้การปฏิเสธและขอความเป็นธรรมเพื่อต่อสู้คดี ทั้งยังยกหูหา
“จักรภพ เพ็ญแข” ที่ลี้ภัยคดี112ในต่างประเทศถึง 15 ปีให้กลับมาสู้คดี ดังนั้นหาก “ทักษิณ” ไม่มั่นใจว่าจะรอดคมดาบคดี112 คงไม่ยกหูหา “จักรภพ” ลูกน้องเก่าให้กลับไทยเพื่อมาสู้คดี สำหรับคดี “จักรภพ” คดีมาตรา 112 อัยการสั่งไม่ฟ้องไปหลายปี เหลือ 2 คดี คือ คดีอาวุธปืน และคดีขัดคำสั่ง คสช.แตก็มีบางคนที่ไม่ยอมกลับมา เช่น “จอม เพชรประดับ” ไม่ยอมกลับไทย หากไม่มีการนิรโทษกรรมอย่างถ้วนหน้ารวมคดี 112 เข้าไปด้วย ถึงจะยอมกลับไทย ในทางการเมืองจึงฟันธงได้ว่า คดี112 ของนายใหญ่เพื่อไทย น่าจะรอดสูง
สำหรับฝ่ายตรงข้ามที่เป็นคู่ปรับกับระบอบทักษิณมาอย่างยาวนาน ย่อมต้องแช่งให้ “ทักษิณ” โดนคดี112อยู่แล้ว อาทิ “วัชระ เพชรทอง” ร้องต่ออัยการสูงสุดให้ยืนกรานในคำสั่งของอัยการสูงสุด ที่ออกคำสั่งว่าให้ดำเนินคดีตามมาตรา 112 แก่ “ทักษิณ” พร้อมกับกล่าวดักคอว่า อัยการสูงสุดต้องยึดหลักตามอัยการสูงสุดท่านเดิมเพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรม ขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาทั้งพยานหลักฐานจากอัยการและจากฝ่ายนายทักษิณอย่างเป็นธรรม อย่าใช้กระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน
เพื่อรับประกันความเสี่ยงไม่ให้ตกเก้าอี้ “นายกฯเศรษฐา” ถึงขนาดยอมไปซูฮก “อาจารย์วิษณุ” ถึงบ้าน เพื่อให้ช่วยผ่าทางตันปมตั้ง “รมต.สายล่อฟ้า” ยอมใช้บริการเซียนเหนือเซียนทางกฎหมาย โอกาสรอดย่อมมีสูง หรือ แม้แต่คดี112 ของ “ทักษิณ” ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ คอการเมืองฟันเปรี้ยงรอดคมดาบชัวร์ !
ข่าวที่เกี่ยวข้อง