คดี 112 ดับผยอง "ซุเปอร์นายกฯ" รุกคืบการเมืองสะดุด ดิ้นหลุดบ่วงคดี 112 บีบ "พท."หวนจับมือ "ก้าวไกล" ตั้งรัฐบาลนิรโทษกรรมเหมาเข่ง
ข่าวที่น่าสนใจ
สะดุดคดี112! เดินสายคุยการเมือง เช็กเรตติ้งตัวเอง ดันคะแนนนิยมรัฐบาล
เพราะไม่เช่นนั้น วานนี้อาจได้เห็นภาพ “ซุเปอร์นายกฯ” ต้องถูกควบคุมตัวไปศาลอาญาในฐานะจำเลยเพื่อส่งฟ้องคดี 112 และเมื่อศาลประทับรับฟ้องแล้ว จำต้องถูกพาตัวออกจากห้องพิจารณาคดีไปฝากขังรวมกับจำเลยคนอื่นๆ ระหว่างรอประกันตัวในห้องขังใต้ถุนศาล
คาดเดากันว่า ศาลอาจไม่ให้ประกันตัว เพราะ “นายใหญ่เพื่อไทย” ยังเป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างการพักโทษกว่าจะพ้นพักโทษราวเดือนสิงหาคมโน้น ทนายความทักษิณ จึงขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดี 112 เป็นเหตุให้ “อัยการสูงสุด” นัดหมายใหม่เป็นวันที่ 18 มิถุนายน เพราะอย่าลืมว่า กว่า “นายใหญ่เพื่อไทย” จะได้รับการพักโทษอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า โดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว ทั้ง ๆ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษจากต้องติดคุก 8 ปีเหลือ 1 ปี กระนั้นยังได้รับสิทธิพิเศษผู้ป่วยขั้นวิกฤตไม่ต้องอยู่ในเรือนจำหลังกรงขังใช้ชีวิตแออัดยัดเยียดกับนักโทษชายทั่วไป ได้มาอยู่ห้องวีไอพี ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
อาจเรียกได้ว่า รากเลือดกว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ต้องแลกมาด้วย เสียงถล่มจากฝ่ายตรงข้ามที่ยังแค้นฝังหุ่น “ระบอบทักษิณ” พลอยทำให้ กระบวนการยุติธรรมไทยโดนหางเลขเข้าไปด้วย เข้าทางฝ่ายคู่ปรับเก่าล็อคเป้าถล่มไปยัง “กรมราชทัณฑ์” ที่ต้องรับเคราะห์แทน ว่า 2 มาตรฐานโอบอุ้มอภิสิทธิ์ชนนักโทษเทวดาตามที่ชาวบ้านและสื่อมวลชนบางสำนักเรียกขาน
จนกระทั่ง เหนือฟ้ายังมีฟ้า สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็บังเกิดขึ้น เมื่อ “ทักษิณ” ต้องคดี 112 ต้องยอมรับว่า บั่นทอนกำลังใจ “พรรคเพื่อไทย” พอสมควร จากเดิมที่ “ทักษิณ” สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองได้อย่างคล่องตัว ขึ้นเหนือล่องใต้บุกอีสาน เดินสายคุยการเมือง เช็กเรตติ้งตัวเอง ดันคะแนนนิยมรัฐบาล และ ลูกสาว “อุ๊งอิ๊ง” แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พบปะมวลชนคนเสื้อแดงแบบถี่ยิบ หรือ เสนอแนะข้อคิดไอเดียดี ๆ แก่รัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เร่งแก้ปัญหาต่าง ๆ มีอันต้องสะดุดไป ใช่หรือไม่
เพราะการรุกคืบทางการเมืองของ “ทักษิณ” ไม่ว่าจะย่างก้าวไปไหนทำอะไรเป็นข่าวดังพลุแตกตลอด ส่งผลต่อคะแนนนิยมทางการเมืองต่อ รัฐบาล กระทบเป็นลูกระนาดไปถึง พรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี และ ทายาททางการเมืองของตัวเอง จึงต้องออกมาเล่นเองในฐานะ “ป๋าดัน” เพราะต้องยอมรับว่า เรตติ้งกระแสส้มฟีเวอร์ของ “พรรคก้าวไกล” ยังนำโด่งทิ้งห่าง “พรรคเพื่อไทย” อยู่หลายขุม ซึ่งหาก “นายใหญ่เพื่อไทย” หยุดเดินเกมรุกทางการเมืองขึ้นมา สิ่งที่ได้ทำมาอาจเหนื่อยเปล่า
เพราะอย่าลืมว่าสถานการณ์ทางการเมืองเวลานี้ต่างจากยุค “ทักษิณ” เรืองอำนาจ คู่แข่งทางการเมืองเปลี่ยนไปจากเดิมวิ่งสู้ฟัดกันเองกับพรรคร่วมรัฐบาลสลายขั้วด้วยกัน อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ , พรรครวมไทยสร้างชาติ , พรรคภูมิใจไทย และ พรรคพลังประชารัฐ แต่มาวันนี้ พรรคที่เคยเป็นคู่แข่งกันต้องมา กลับมากอดคอกันร่วมกันเพื่อวิ่งสู้ฟัดกับ “พรรคก้าวไกล” ดังนั้น “เพื่อไทย” จึงชู “ทักษิณ” เพื่อออกโรงสู้รบเองในฐานะหัวหอกผู้นำสูงสุดรัฐบาลสลายขั้วฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่
ดักคอ “พท.”ยอมแตกหัก“พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยใหม่” หวนจับมือ “ก้าวไกล” ตั้งรัฐบาลนิรโทษกรรมล้างผิดคดี 112
ดังที่กล่าวมาคดี 112 ทำให้ “ทักษิณ” ต้องดิ้นให้หลุดบ่วง เพราะต้องต่อสู้คดีในชั้นศาลต่ำ ๆ 4 – 5 ปี กว่าจะพ้นมลทินในชั้นศาลฏีกา ลองดูชะตาชีวิตในการต่อสู้คดีของคู่แค้นเก่า “ระบอบทักษิณ” แกนนำ กปปส. ขวางการเลือกตั้งขับไล่รัฐบาล”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นิรโทษกรรมเหมาเข่ง เมื่อปี 2556 ที่มี “อัยการสูงสุด” เป็นเจ้าของคดีสู้กันมาถึง 3 ศาลว่าจะปิดฉาก 10 ปี แห่งการต่อสู้ สุดท้ายศาลฏีกา พิพากษา “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” ติดคุก 8 ปีแต่ศาลเมตตาให้รอลงอาญา 2 ปีพร้อมกับไปทำคุณประโยชน์สังคมชดใช้ อีก 3 คน ที่เหลือ “สกลธี ภัททิยกุล” , “สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และ “ดร.เสรี วงศ์มณฑา ศาลยกฟ้อง ส่วนคดี112 ของ “ทักษิณ” อีกกี่ปีถึงจะปิดฉาก
จึงไม่แปลกหาก “พรรคเพื่อไทย” ที่อยู่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “ชูศักดิ์ ศิรินิล” สส.พรรคเพื่อไทยเป็นประธาน นัดประชุมด่วนในวันนี้ 30 พฤษภาคม จะหาทางดิ้นรนเพื่อช่วยนายใหญ่เพื่อไทยจะใช้กระบวนท่าใด ทำได้แต่ต้องระมัดระวัง เพราะอาจต้องแลกมาด้วยการแตกหักกับ พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยใหม่ ทั้งหมดที่มีจุดยืนร่วมกันคือ ปิดประตูตายนิรโทษกรรมเหมาเข่งล้างผิดคดี 112
บรรดาคอการเมืองต่างพุ่งเป้าวิเคราะห์ไปต่าง ๆ นา ๆ ว่า “ทักษิณ” ติดบ่วงคดี 112 เชื่อมโยงกับดีลลับบ้านที่เริ่มไม่สบอารมณ์ได้คืบจะเอาศอก หรือ เพื่อแตะเบรกนายใหญ่ไม่ให้ล้ำเส้นในหลาย ๆ เรื่อง เพราะก่อนหน้านี้ฟันธงกันว่า ผู้นำสูงสุดเพื่อไทยรอดคดี112ชัวร์
แม้ว่าคำสั่งอัยการสูงสุด ไม่ได้ทำให้ต้องติดคุกในทันที แต่ถือว่าขาแหย่คุกไปแล้วข้างหนึ่ง และ เหมือนถูกล่ามโซ่รุกคืบทางการเมืองใด ๆ ส่อสะดุด หรือ จินตนาการกันไปใหญ่กว่านั้น คือ พรรคเพื่อไทย อาจยอมแตกหักกับ “พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยใหม่” หวนกลับไปจับมือกับ “พรรคก้าวไกล” ตั้งรัฐบาลแดงส้ม ร่วมหอลงโลงกันเพื่อนิรโทษกรรมล้างผิดคดี 112 เพราะทั้ง “พรรคก้าวไกล” ก็สมประโยชน์เนื่องจากใกล้ชะตาขาดกับเรื่องนี้เต็มที เหล่าสส.ปากแจ๋วแซะแขวะสถาบันพาเหรดกันติดคุกระนาวโดนคดียาวเป็นหางว่าว พรรคก้าวไกลเองก็ใกล้ถูกยุบพรรคในเร็ววัน แถมพ่วงตัดสิทธิทางการเมือง 44 สส.ที่ลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ในคดีล้มล้างการปกครอง ส่วน “พรรคเพื่อไทย” สบช่องได้ช่วย “นายใหญ่” ให้พ้นบ่วงคดี 112 ที่เป็นเหมือนระเบิดเวลาผูกติดตัวไว้ จะเป็นจริงตามที่บรรดาคอการเมืองจินตนาการได้หรือไม่ ตอบยาก!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง