ฟิลิปปินส์ ผู้นำชี้ ควรมีสหรัฐอยู่ในเอเชีย

ประธานธิบดีฟิลิปปินส์หวั่นจีนมีอิทธิพลมากไป ลั่น เอเชียควรมีสหรัฐมาอยู่ด้วย เพื่อสันติภาพของภูมิภาค ด้านสหรัฐยืนยันสถานะ ที่จะอยู่ในเอเชียไปอีกยาวนาน

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ของฟิลิปปินส์ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่แชงกรี-ลา ไดอะล็อก ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเวทีความมั่นคงสำคัญ ที่มีรัฐมนตรีกลาโหมจากทั่วโลกมาเข้าร่วม โดยมาร์กอสได้กล่าวว่า อิทธิพลที่กำหนดขึ้นของจีน ต่อสถานการณ์ความมั่นคงและวิวัฒนาการทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ เป็นข้อเท็จจริงที่ถาวร ในขณะเดียวกัน การมีอยู่อย่างมั่นคงของสหรัฐ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสันติภาพในภูมิภาค มันไม่มีทางเลือก ทั้ง 2 ประเทศมีความสำคัญ เสถียรภาพอย่างต่อเนื่องของภูมิภาคนี้ กำหนดให้จีนและสหรัฐ ต้องจัดการการแข่งขันดังกล่าวในลักษณะที่มีความรับผิดชอบ และอยู่ในการพิจารณาการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดด้วย

ด้านนายพลลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ ก็ได้กล่าวในงานเดียวกันนี้ว่า สหรัฐต้องการยกระดับการเชื่อมโยงพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และหุ้นส่วนในเอเชีย ให้กลายเป็นการบรรจบกันครั้งใหม่ ที่อิงหลักนิติรัฐ การบรรจบกันใหม่นี้กำลังสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่นมากขึ้น และมีความสามารถมากขึ้น และนั่นกำลังกำหนดยุคใหม่ของการรักษาความปลอดภัยในอินโดแปซิฟิก มันไม่เกี่ยวกับการกำหนดเจตจำนงของประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งหรือการบังคับ แต่มันเกี่ยวกับทางเลือกเสรีของรัฐอธิปไตย เกี่ยวกับการเรียกความรู้สึกถึงจุดประสงค์ร่วมกันของเราออกมา สิ่งนี้จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตร บนพื้นฐานของวิสัยทัศน์และค่านิยมร่วมกัน

ออสตินระบุต่อว่า แม้จะมีการปะทะกันในประวัติศาสตร์ ทั้งในยุโรปและตะวันออกกลาง แต่อินโดแปซิฟิกก็ยังคงเป็นปฏิบัติการที่สำคัญที่สุดของเรา การกระทำที่เราดำเนินการร่วมกันที่นี่ จะยังคงกำหนดรูปแบบศตวรรษที่ 21 ให้กับคนทั้งโลกต่อไป และการปกป้องความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้ ยังคงเป็นหลักการสำคัญในการจัดทำนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ซึ่งสหรัฐจะสามารถมีความมั่นคงได้ก็ต่อเมื่อเอเชียเป็นเช่นนั้น และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมสหรัฐจึงคงสถานะของตนในภูมิภาคนี้ มายาวนาน

หลังสุนทรพจน์ของออสตินเผยแพร่ออกไป เฉา เหยียนจง นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์การทหารของจีน ได้แสดงความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า ตนคิดว่า เมื่ออำนาจสัมพัทธ์ของสหรัฐลดลง สหรัฐจึงหวังจะใช้จุดแข็งของพันธมิตรมากขึ้น เพื่อตอบสนองความตั้งใจเชิงกลยุทธ์ของตนเอง ระบบพันธมิตรประเภทนี้ แบบที่ออสตินกล่าวไว้ ถือเป็นความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสหรัฐ พวกเขาได้ก่อตั้งพันธมิตรทางการทหารที่ทรงพลังที่สุดในโลก ซึ่งการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของพันธมิตรเหล่านี้ของสหรัฐ ทำให้ประเทศอื่นๆ มีความรู้สึกไม่มั่นคงเพิ่มมากขึ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น