วันที่ 13ก.ย. 2564 นายธันวา ไกรฤกษ์ สมาชิกพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า นานมาแล้วที่ไม่ได้เขียนถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แต่เนื่องจากเห็นว่าแถลงการณ์ของคณะก้าวหน้าเมื่อวานนั้น มีพฤติกรรมเดิมๆอีกแล้วคือพยายามสร้างวาทกรรม สร้างความเกลียดชังในสังคม เช่น “หยุดใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่ง อย่าให้ไฟแค้นของประชาชนลุกลามทั้งแผ่นดิน” หรือ “ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซึ่งกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน กำลังดำเนินไปอย่างโหดเหี้ยม อำมหิต ป่าเถื่อนถึงที่สุด”
หรือแม้กระทั่ง “ภาพการสลายชุมนุมที่รุนแรงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ประจานประเทศไทยต่อสายตาชาวโลกมาตลอดหลายสัปดาห์” และ “ใช้กำลังและอาวุธครบมือบุกแฟลตดินแดงเพื่อค้นหาและจับกุมผู้ชุมนุม ระดมยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง อย่างไม่ยั้งมือเข้าใส่ โดยไม่สนใจว่าเป็นที่พักอาศัยของประชาชนที่ไม่ได้มีส่วนร่วม” ตัวอย่างประโยคเหล่านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของถ้อยคำประดิษฐ์ประดอยบิดเบือนความเป็นจริง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับม็อบที่คุณสนับสนุนอยู่ หาใช่ข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชน
นายธันวากล่าวว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมมาโดยตลอด ประกอบกับตนเองเรียกร้องให้รัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจิตใจตนไม่ได้พิกลพิการไปเข้าข้างตำรวจแน่นอน แต่มาจากความไม่สบายใจ ไม่อยากเห็นสังคมต้องผิดเพี้ยนจากคำโอ้โลมที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น ซึ่งสิ่งที่ปรากฏผ่านคลิปวีดีโอและสื่อต่างๆนั้น คือฝั่งผู้ชุมนุมได้มีพฤติกรรมยั่วยุในทุกครั้งและทุกวันที่ออกมาชุมนุม มีการจุดพลุ จุดประทัด ขว้างระเบิดปิงปอง เผายางรถยนต์ เผารถตำรวจ เผาพระบรมฉายาลักษณ์ เผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ปิดล้อมโรงพยาบาล/สถานที่ราชการ/และบ้านเรือนประชาชน กีดขวางการจราจร เทเศษวัสดุสิ่งของลงบนท้องถนน และหลายคนก็พกปืน หาใช่ฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐพยายามใช้ความรุนแรง ดังข้อความที่คณะก้าวหน้าได้แถลงแต่อย่างใดไม่
นายธันวากล่าวอีกว่า แม้ตนจะเสื่อมศรัทธากับองค์กรตำรวจและรัฐบาลนี้มากเพียงใด แต่ความจริงก็คือความจริง จึงยอมให้ใครมาบิดเบือนไม่ได้ เพราะชาติไม่อาจไปถึงสิ่งที่ดีกว่าด้วยวิธีการผิดๆ ตรงกันข้ามมีแต่จะยิ่งแย่ลง ดังนั้นขอให้ผู้ที่กำลังพยายามจุดกระแสสร้างความแตกแยกเกลียดชัง หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ก่อนจะลุกลามบานปลายเหมือนเหตุเผาบ้านเผาเมืองเมื่อในอดีต ซึ่งสุดท้ายแล้วไม่มีใครเป็นผู้ชนะเลย จนถึงทุกวันนี้ ความความสูญเสียมันก็ยังคงอยู่ ไม่ได้หมายถึงวัตถุสิ่งของ แต่มันคือความสุขสงบ ความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ที่ถูกทำลายไป