รวบตัว “หนุ่มรับจ้างทำความสะอาด” ขโมยเงิน นทท.ญี่ปุ่น อ้างเอาไปผ่อนรถเพราะกลัวโดนยึด

หนีไม่รอด รวบตัว "หนุ่มรับจ้างทำความสะอาด" ขโมยเงิน นทท.ญี่ปุ่น อ้างเอาไปผ่อนรถเพราะกลัวโดนยึด

Top news รายงาน วันนี้ (1 มิ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ( ผบก.สส.บช.น.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.สส.3 บก.สส.บช.น.) กับชุดปฏิบัติการที่ 3ร่วมกันจับกุม นายธาดา กาบแก้ว อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 496/2567 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” จับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้านพัก ม.7 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สืบเนืองจาก เมื่อวันที่ 6 เม.ย 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายคือ นายอาโอกิ อายุ 39 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ว่าถูกคนร้าย ลักทรัพย์เป็นเงินสด 160,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทย 38,000 บาท จากห้องพัก ภายในโรงแรมย่านสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ขณะที่ตนเองลงไปทานอาหารที่ล็อบบี้ของโรงแรมชั้นล่าง หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เจ้าของคดีได้ประสานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ทำการสืบสวนจนทราบเบาะแสและเข้าจับกุม

 

 

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทำความสะอาดรายวัน โดยจะรับเฉพาะโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท วันเวลาเกิดเหตุดังกล่าว ขณะทำความสะอาดกับเพื่อนพนักงานอยู่นั้นได้เห็นกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย จึงทำทีเป็นลืมรองเท้าไว้ในห้องดังกล่าว แล้วย้อนกลับเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน พบเงินสกุลญี่ปุ่นจึงหยิบใส่กระเป๋ากางเกงของตนมา เมื่อเสร็จงานตนจึงขี่รถ จยย. ไปเปลี่ยนเสื้อที่ปั๊มน้ำมันเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และเดินทางกลับบ้านย่านนนทบุรี ก่อนนำเงินไปแลกที่ ร้านแลกเงิน ภายในห้างสรรพสินค้าย่านท่าพระ แล้วนำเงินที่ได้ไปจ่ายค่างวดรถ จยย.ที่ขับขี่อยู่ เนื่องจากเคยถูกไฟแนนซ์ ตามไปยึดรถถึงบ้านจึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก ทั้งนี้ขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหาบอกกับว่า “ผมเคยเห็นพี่ในTikTok”

 

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมักจะใช้โอกาส ที่ทำงานใกล้ชิดกับกับทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้า โดยอาศัยจังหวะที่เข้ามาทำความสะอาดห้อง หรือช่วงที่เข้ามาบริการในห้องพัก ดังนั้น จึงควรจะมีมาตรการในการ ตรวจประวัติอาชญากรรม คดีเกี่ยวกับทรัพย์ของผู้ที่จะทำงานด้านนี้ เพื่อปิดโอกาส ไม่ให้ทำงานประเภทที่ต้องเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ และเป็นการคัดกรองเบื้องต้น และถ้าเหตุเกิดกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศอีกด้วย.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

5 วิลล่าที่ดีที่สุด บนเกาะสมุย สำหรับการพักผ่อนสุดหรู
ผุดไอเดีย สุดเจ๋ง ติดตั้งนวัตกรรมประดิษฐ์รั้วไฟฟ้าแรงต่ำ 12 โวลท์ ป้องกันภัยช้างป่า
ปราบปราม เด็กแว้นอันธพาลครองเมือง
จบด้วยดี!! ปัญหาเงินทอดกฐินกว่า 1 ล้านบาท ”วัดหนองนกเมืองคอน” จบชื่นมื่น
พบเด็กแฝดตาสีฟ้า แม่ยอมรับรู้สึกท้อ ลูกถูกล้อเลียน ซ้ำมิจฉาชีพนำรูปไปแอบอ้างเปิดรับบริจาค
"ทนายเดชา" เชื่อ "ทนายตั้ม" พร้อมสู้คดี เคยพูดคุยมีหลักฐานแชทสนทนา
ททท.โคราช ชวนสัมผัส “เทศกาลเที่ยวพิมาย 2567” ตื่นตาตื่นใจการแสดงแสง สี เสียงเทคนิคพิเศษสุดตระการตา
“ออยศรี” เข้าให้ข้อมูลคดีของทนายตั้ม เจ้าตัวเชื่อ “เจ๊อ้อย” ไม่ได้ให้เงินด้วยความเสน่หา
กล้าล้วงคองูเห่า!! แก๊งมิจฉาชีพอ้างชื่อผู้การฯเมืองคอนโทรหลอกนักข่าวใหญ่ขอความช่วยเหลือยืมเงิน 36,000 บาท
"เต๋า สมชาย" เล่าความประทับใจ ไปชมโขนพระราชทาน ได้เจอ "บิ๊กตู่" เผยแค่ยืนใกล้ๆก็สุขใจยิ่งนัก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น