โผล่อีก “เจ้าหนี้โหด” บังคับลูกหนี้ถ่ายภาพเปลือยกาย ใครหนีไม่คืน เจอโพสต์ประจานลงโซเชียล

โผล่อีก "เจ้าหนี้โหด" บังคับลูกหนี้ถ่ายภาพเปลือยกาย ใครหนีไม่คืน เจอโพสต์ประจานลงโซเชียล

โผล่อีก “เจ้าหนี้โหด” บังคับลูกหนี้ถ่ายภาพเปลือยกาย ใครหนีไม่คืน เจอโพสต์ประจานลงโซเชียล

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว3” ได้เปิดเผยเรื่องราว ของลูกหนี้กลุ่มหนึ่งที่ถูกเจ้าหนี้เงินกู้บังคับให้แก้ผ้าถ่ายรูป จากนั้นก็นำรูปของลูกหนี้ที่ถูกบังคับให้แก้ผ้ามาโพสต์ประจานลงในเฟซบุ๊ก สร้างความอับอายให้กับบรรดาลูกหนี้เป็นอย่างมาก

 

เจ้าหนี้โหด

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อทีมข่าวตรวจสอบพบว่า เฟซบุ๊ก ของเจ้าหนี้รายดังกล่าว ได้ล็อกโปรไฟล์ของตนเอง ทำให้ไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ ได้ แต่ก็มีคนแคป หรือเซฟภาพดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นภาพของลูกหนี้ที่ถูกบังคับให้แก้ผ้าถ่ายรูป ก่อนนำมาประจานในเฟซบุ๊กของเจ้าหนี้รายนี้ บอกรายละเอียดทุกอย่างของลูกหนี้ ตั้งแต่ ชื่อนามสกุล ที่อยู่ เลขที่บัญชีธนาคาร รวมไปถึงรายละเอียดอื่นๆ ของคนในครอบครัว หรือญาติ

ผู้เสียหายที่เป็นลูกหนี้รายหนึ่งยอมเปิดเผยว่า “ตนเอง รู้จักกับเจ้าหนี้รายนี้ผ่านเพจจากการเสิร์ชหา ผ่าน Facebook ตอนนั้นตนเองมาอยู่ปราจีนบุรี ประกอบกับช่วงนั้นมีปัญหาทางการเงินอีกทั้งแฟนยังมาถูกสุนัขกัดจึงไม่มีเงินไปรักษา ถึงทักไปขอยืมครั้งแรกขอยืม 500 บาทส่งสัปดาห์ละ 100 บาท จนครบเจ้าหนี้จึงเพิ่มเงินกู้ให้เป็นพันบาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องถ่ายรูปเปลือยมาให้เจ้าหนี้เก็บไว้

จากนั้นตนเองก็พยายามไปสมัครงานแต่ก็ไม่ได้จึงนำเงินดังกล่าวมาลงทุนขายของ จึงเงินหมุนเงินไม่ทันแล้วขาดส่งไป 3-4 วัน เจ้าหนี้รายนี้ก็ปรับวันละ 200 ถ้าเกินกำหนดก็จะปรับเป็นวันละ 50 จนกว่าจะเอาต้นมาคืน จนสุดท้าย เจ้าหนี้ก็นำรูปดังกล่าวไปโพสต์ประจาน ยอมรับว่าที่ยอมส่งรูปเปลือยของตนเองไปเพราะมืดแปดด้านเหมือนกันไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหน

 

สำหรับการโพสต์ประจานลูกหนี้ หรือทวงถามหนี้ผ่านทางสื่อสาธารณชนให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องรับรู้ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายและมีโทษตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. ผิดตามอาญามาตรา 326 และ 328 เรื่องการหมิ่นประมาท มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท แม้เจ้าหนี้จะได้ลบข้อความไปแล้วก็ตาม

2. ผิด พ.ร.บ. ทวงหนี้ 2558 และเพิ่มเติม มี.ค.60 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท

3. ผิด พ.ร.บ. การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 & 2560 มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผิดมาตรา 16 ตัดต่อเพิ่มเติมภาพ หรือข้อความ จำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. ผิด พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA มีโทษทางอาญาจำคุกสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ถึง 1 ปี หรือปรับสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แกนนำภูมิใจไทย" ผนึกกำลังหาเสียง หนุน "ไสว" ชิงเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีฯ มั่นใจผลงานพรรค
"ดีเอสไอ" จ่อเรียกสอบ 40 วิศวกร คดีตึกสตง.ถล่ม
"ฉก.ลาดหญ้า" ยันเหตุปะทะในประเทศเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบชายแดนไทย
บางจาก ศรีราชา และ GISTDA ผนึกกำลังกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมสร้างอนาคต นกกาฮัง และ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น