ตร.เร่งล่าตัวมือปืน ยิง “เสี่ยต้น” พบเบาะแสล่าสุด หลบหนีออกจากกรุงเทพฯ

โดย พลตำรวจตรี นพศิลป์ เปิดเผยว่า ในคดีพยายามลอบสังหารเสี่ยต้นนั้น พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่ ผู้จ้างวาน , มือปืน , ผู้จัดหาอาวุธปืน , และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในการใช้หลบหนี

ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้จัดกำลังร่วมกันระหว่างทีมสืบนครบาล ,สืบ สน.วังทองหลาง และสืบภูธรภาค 4 เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย คือ นางสาว วรรณิภา หรือมด หะมาลา ภรรยาเสี่ยต้น และผู้จ้างวาน , นายสาโรจน์ เสือสุวรรณ ผู้จัดหาอาวุธปืน และยานพาหนะ และนายวีรภัทร ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์

ส่วนนายณัฐพล ซึ่งเป็นมือปืนนั้น อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นทราบเบาะแสว่า หลบหนีออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานครไปอยู่แถบภาคตะวันออกแล้ว ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่จับกุมได้ เข้ามายังกองบังคับการสืบนครบาล เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด โดยมี พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบคดี และพลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้อำนวยการสอบปากคำในครั้งนี้

เบื้องต้น ในชั้นจับกุม นายสาโรจน์ และนายวีรภัทร ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก โดยให้การรับสารภาพว่า อยู่ร่วมขบวนการพยายามลอบสังหารเสี่ยต้นจริง โดยได้รับเงินค่าจ้างจาก นางสาว วรรณิภา ภรรยาเสี่ยต้น จำนวน 3 แสนบาท แบ่งเงินโอนให้มือปืน 45,000 บาท โอนเงินค่าจัดหาอาวุธให้นายสาโรจน์ อีก 33,000 บาท และที่เหลือเป็นเงินสด ส่วนนางสาววิภา ยังคงให้การภาคเสธ อ้างว่าเป็นปมความขัดแย้งเรื่องภายในครอบครัวกับเสี่ยต้น ทั้งเรื่องหึงหวง และการทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งมูลเหตุจูงใจนั้น นอกจากเรื่องความขัดแย้งแล้ว ยังเป็นเรื่องผลประโยชน์ที่ภรรยาเสี่ยต้นจะได้รับหลังจากการเสียชีวิตของเสี่ยต้นด้วย

จากการสอบสวนพบว่า ภรรยาเสี่ยต้นเริ่มต้นวางแผน ตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังจากมีปากเสียงกับเสี่ยต้น ก่อนจะเริ่มว่าจ้างให้มือปืนรับงานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ต่อมา วันที่ 1 เมษายน ได้นัดพบกับนายสาโรจน์ ผู้รับงาน ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการพูดคุยวางแผน และชี้เป้าหมายตัวเสี่ยต้น ก่อนที่ภรรยาเสี่ยต้นได้นัดหมายให้เสี่ยต้นออกมาพบที่ร้านเหล้าแสงจันทร์ รามอินทรา ในวันที่ 8 เมษายน แล้วส่งพิกัดชี้เป้าให้กลุ่มมือปืนสะกดรอยตาม และก่อเหตุยิงในคืนเดียวกัน