จี้ "พท." ประกาศจุดยืนจับมือ "ก้าวไกล" นิรโทษกรรมสุดซอย ภาค 2 ล้างผิดคดี 112 เช็กน้ำเสียง บิ๊กเพื่อไทย ไม่กล้าเหมาเข่ง ผวาการเมืองลงถนน วนลูป นิรโทษกรรมสุดซอยภาค 1
ข่าวที่น่าสนใจ
จี้ “พท.” ประกาศจุดยืนนิรโทษกรรมคดี 112
ยิ่งก่อนหน้านี้ “พรรคเพื่อไทย” แทงกั๊กมาโดยตลอด ว่าจะนิรโทษกรรมผู้กระทำผิดมาตรา 112 หรือไม่ แต่ภายหลัง “ทักษิณ” ถูกอัยการสั่งฟ้องคดี112 เปลี่ยนท่าทีทันที คงประเมินสถานการณ์ดูแล้ว่า “นายใหญ่เพื่อไทย” เปอร์เซ็นต์รอดยาก!
เข้าทางฝ่ายแค้นเก่าระบอบทักษิณรุมสกรัม อาทิ “เทพไท เสนพงศ์” อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช เปิดเกมรุกไล่ “พรรคเพื่อไทย” ทันที ด้วยการจี้ให้ประกาศจุดยืน 112 ด้วยการขอให้ “พรรคเพื่อไทย” มีบทสรุปเรื่องนี้อย่างชัดเจน อย่าเล่นละคร ตีสองหน้า เอาใจทั้งกลุ่มอนุรักษ์นิยมและกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพราะที่ผ่านมาสมัย “พรรคเพื่อไทย” เป็นพรรคฝ่ายค้าน เคยออกแถลงการณ์จุดยืนเกี่ยวกับมาตรา 112 โดย “ชัยเกษม นิติสิริ “ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย แต่กลับมีความเห็นต่างจาก “ทักษิณ” จนต้องยกเลิกไป และในช่วงมีการรณรงค์หาเสียง “เศรษฐา ทวีสิน” ได้พูดแสดงความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 112 ว่าควรจะปรับปรุงแก้ไข จนมาถึงการสลับขั้วจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้วกับกลุ่มพรรคอนุรักษ์นิยม กลับมีท่าทีอึมครึม พยายามบ่ายเบี่ยง และโยนให้เป็นความเห็นของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการออก พรบ.นิรโทษกรรม ซึ่งกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทย กลับแสดงท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ จนมาถึงตอนนี้ เมื่ออัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องคดี112 “ทักษิณ” ก็มีส.ส. พรรคเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหว ให้มีการออกพรบ.นิโทษกรรมครอบคลุมถึงการกระทำความผิดมาตรา 112
แต่ถ้าจะออกพรบ.นิรโทษกรรมเพื่อความปรองดอง จะต้องนิรโทษกรรมให้กับทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัตินิรโทษกรรมให้กับบางกลุ่ม ไม่ครอบคลุมถึงบางกลุ่ม ความปรองดองสามัคคีก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของการออกพรบ.นิรโทษกรรมในครั้งนี้ ถ้าหากไม่นิรโทษกรรมครอบคลุมทุกกลุ่ม ก็ไม่ควรจะออก พรบ.นิรโทษกรรมให้กับกลุ่มใดเลย จึงขอเรียกร้องความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย จะเอาอย่างไรกับการนิรโทษกรรมล้างผิดคดี 112 อย่าแบ่งหน้ากันเล่น อย่าตีสองหน้า อย่าตระบัดสัตย์เหมือนกับตอนจัดตั้งรัฐบาลอีก
สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ “นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์” สส.เพื่อไทย ในทางการเมืองอาจมองได้ว่า กำลังโยนหินถามทาง ยิ่งเกิดข้อกังขาถึงการอ้าง “ปีมหามงคล” กำลังมัดมือชกให้ฝ่ายที่เห็นต่างต้องยอมรับด้วยใช่หรือไม่ ทั้งนี้อย่าลืมว่า คนที่กระทำผิดมาตรา 112 ส่วนใหญ่กระทำผิดซ้ำซาก มีทั้งติดคุกอยู่ , อยู่ระหว่างรอได้ประกันตัว และหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว จึงอาจเป็นไปได้ว่า พรรคเพื่อไทย เตรียมเข็น “นิรโทษกรรมสุดซอย ภาค 2 ล้างผิดคดี 112 ใช่หรือไม่
เช็กน้ำเสียง บิ๊กเพื่อไทย ไม่กล้าสุดซอย ผวาการเมืองลงถนนซ้ำรอย “กปปส.”
แม้แต่ “สุทิน คลังแสง” แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม คุมกำลังกองทัพ ยังกล่าวยอมรับว่า พรรคเพื่อไทย จะดำเนินการนิรโทษกรรมด้วยความระมัดระวัง เพราะในอดีตเคยมีบทเรียน และ ให้ฟังเสียงของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งประเมินทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ทั้งนี้ การนิรโทษกรรมต้องดูประเภทการทำความผิด สิ่งไหนที่สังคมรับได้ และความผิดไหนที่สังคมรับไม่ได้ต้องแยกแยะไปตามนั้น กล่าวโดยสรุปตามที่ “สุทิน” ให้สัมภาษณ์ คือ พรรคเพื่อไทยหนุนนิรโทษกรรมแต่ไม่เหมาเข่งแยกแยะเป็นรายกรณี
สาเหตุที่บรรดาฝ่ายตรงข้ามระบอบทักษิณ และ พรรคก้าวไกล ต่างออกมาดักคอ ร่างพรบ.นิรโทษกรรม น่าจะผ่านสภาฉลุย ด้วยเสียงข้างมากเพียงแค่ “พรรคเพื่อไทย” จับมือกับ “พรรคก้าวไกล” เป็นอันจบเพราะต่างฝ่ายต่างสมประโยชน์ ฝ่ายหนึ่งได้ช่วยนายตัวเอง อีกฝ่ายหนึ่งได้ช่วยเหลือพรรคพวกตัวเอง แต่อาจจะเกิดปรากฎการณ์ซ้ำรอย ปี 2556 เกิดการประท้วงประชาชนลุกฮือ นำโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” แกนนำ กปปส. ล้มกระดานรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาว “ทักษิณ” ชนวนเหตุก่อหวอดมาจากการต่อต้านนิรโทษกรรมสุดซอยภาค 1 ล้างผิดให้กับนายใหญ่เพื่อไทย ฟางเส้นสุดท้าย ขับไล่รัฐบาลบนท้องถนน
ดังนั้นต้องจับตาว่า “พรรคเพื่อไทย” จะกล้าเข็นร่างพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย ภาค 2 ล้างผิดคดี 112 เข้าสู่การประชุมรัฐสภาหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นการเมืองไทยจะกลับไปวนลูปเหมือนนิรโทษกรรมสุดซอย ภาค 1 การเมืองลงถนนบ้านเมืองวุ่นวายไม่สงบสุข จนในที่สุดเกิดรัฐประหารทหารเข้ามายึดอำนาจดับไฟขัดแย้งทางการเมือง อีกครั้งหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง