“นายกฯ” ย้ำทุกคนยอมรับความสามารถ “วิษณุ” เชื่อใจถึงใจ “บิ๊กตู่” มีจุดหมายเดียวกันคือทำเพื่อปท.

“นายกฯ” ย้ำทุกคนยอมรับความสามารถ “วิษณุ” เชื่อใจถึงใจ "บิ๊กตู่" มีจุดหมายเดียวกันคือทำเพื่อปท.

Top news รายงาน 4 มิ.ย.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี คนในพรรคเพื่อไทยมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ต้องทำความเข้าใจอย่างไร ว่า ตนพูดไปเยอะแล้วจริงๆ แล้วก็อย่างที่บอกเรื่องวาทกรรมทางการเมืองก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ปฎิเสธไม่ได้ ถ้าเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ไม่ได้หมายความว่าทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยจะไม่เก่งตนเชื่อว่าที่เราประสบปัญหาอยู่ ทั้งเรื่องของประชาชนและปัญหาทั่วไปในประเทศจริงๆแล้วเราต้องการคนเก่งเข้ามาช่วย ส่วนจะเป็นสีเสื้อหรือคนละขั้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าเราคำนึงถึงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก คำนึงถึงการขับเคลื่อนนโยบายหลักของรัฐบาลว่าจะทำยังไงถึงจะดำเนินไปด้วยความรอบคอบ ตนเชื่อว่า เพื่อนสส.ในพรรคเพื่อไทยก็น่าจะมีความเข้าใจในเรื่องนี้

 

 

 

สื่อถามย้ำว่าเรื่องสีเสื้อในยุครัฐบาลนี้ควรจะหยุดได้แล้วหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอคิดว่าเรื่องเหล่านี้การพูดว่าควรจะหยุดอย่างไรเราไม่มีผีเสื้อแล้วก็เป็นเรื่องของการพูด แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการกระทำมากกว่า รัฐบาลนี้ พูดถึงตัวเอง ก็ไม่ได้ลงพื้นที่ไปเฉพาะพรรคเพื่อไทยมีสส.เยอะคือภาค อีสาน แต่ตนไปภาคใต้ด้วยไปทำงานให้กับทุกภาคนี่เป็นเจตนารมย์ในการที่เรามาทำตรงนี้ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนภาคใดภาคหนึ่ง ตนคิดว่าการกระทำของหลายรัฐมนตรีก็มีความเข้าใจถึงปัญหาที่รัฐบาลประสบมาทั้งปัจจุบันและอดีตคือเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้งกัน เป็นเรื่องที่ไม่ปรารถนาให้เกิดขึ้นเพราะฉะนั้นการแสดงออกของรัฐมนตรีและการทำงานของรัฐบาลได้เน้นย้ำไปตลอด ไม่อยากให้มีการลงแค่พื้นที่เขตของตัวเอง แต่พรรคพวกของตัวเอง การจะพูดก็พูดไปแต่การกระทำจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดขอให้ดูกันต่อไปและตนได้แสดงออกอย่างเต็มที่แล้วว่าเราไม่มีสีเสื้อและพยายามเดินหน้ากันต่อไปแต่ก็เข้าใจถึงความเจ็บปวดในอดีตที่เคยมีมาอยู่ซึ่งก็ต้องบริหารเรื่องความคาดหวังสภาพจิตใจของทุกฝ่าย ไม่ได้บอกว่าเป็นหน้าใหม่เพิ่งเข้ามาการเมืองได้2-3ปี พยายามจะดึงทุกอย่าง แต่เชื่อว่า เวลาจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของทุกฝ่าย ซึ่งการที่รัฐบาลตั้งใจจะมาทำงานตรงนี้และขจัดปัญหาความยากจน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ก็เป็นสัญญาณที่ดีกับทุกฝ่ายเอาความรุนแรงความร้อนแรงทางการเมืองหวังว่าจะลดลงไปได้

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้อยากให้คนในพรรคเพื่อไทยเคารพการตัดสินใจของนายกฯที่ตั้งนายวิษณุซึ่งได้แค่ช่วยรัฐบาลที่แล้วแต่ก็เคยทำงานช่วยมาตั้งแต่รัฐบาลทักษิณนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าประวัติศาสตร์ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วไม่ทราบว่าจะอธิบายให้มันเยอะกว่านี้ได้อย่างไร จึงคิดว่าเรามาดูที่ผลงานมาดูความตั้งใจของท่านดีกว่า การมาร่วมทำงานด้วยกันต่อไปในอนาคตดีกว่า เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นที่ประจักษ์ต่อทุกฝ่ายอยู่แล้วไม่อยากขอพูดย้ำไปย้ำมาเพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้ว

สื่อถามย้ำว่าเรื่องนี้อาจทำให้คะแนนจากมวลชนที่เคยสนับสนุน พรรคเพื่อไทยอยู่จะหันไปสนับสนุนพรรคประชาธิปไตยพรรคอื่นที่เป็นคู่แข่งแทน หรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนที่จะเลือกพรรคใดเรื่องของการทำงานของรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องการขจัดปัญหา ที่ประชาชนประสบอยู่ทั้งเป็นเรื่องของภัยคุกคามทางไซเบอร์ ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้นอกระบบ ปัญหาราคาสินค้าเกษตรเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาไป แต่ก็อย่างที่บอกงบประมาณก็เพิ่ง ใช้ได้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาแล้วนี่เอง ก็ขอให้ใช้เวลา เพราะเลือกตั้งมันจบไปแล้ว ตนมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้ทุกพรรคร่วมรัฐบาล ทำงาน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ส่วนในวันนี้ตนติดภารกิจในทำเนียบรัฐบาลไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับสมาชิกและสส. ไปพรรคเพื่อไทย เพราะมีคนเข้ามาพบจำนวนมากที่ทำเนียบตลอดทั้งวัน ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงจุดยืนแนวคิดเกี่ยวกับมาตรา 112 ของนายกฯ ล่าสุดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องในคดีดังกล่าวนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ตามที่บอกไปแล้ว ก็พูดไปแล้ว ไม่อยากพูดอีกในเรื่องนี้ พูดไปเยอะแล้วและไม่ขอพูดเรื่องนี้อีก ยืนยัน ว่าจุดยืนชัดเจนได้พูดไปแล้ว

นายกฯ ยอมรับด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ทีมงานจะมีการปรึกษาหารือกับนายวิษณุ เรื่องการจัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีที่ถูกสว.ร้อง โดยย้ำว่านายวิษณุอยู่ในทีมนี้ด้วยที่จะช่วยดูข้อกฎหมาย และอีกหลายเรื่อง

ส่วนที่นายวิษณุได้เปิดเผยว่าอาจจะเป็นการเข้ามาช่วยชั่วคราว สัญญาใจบางประการกับนายกฯ บ้างได้หรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เวลาที่เราใช้คำว่าสัญญาใจ ก็เป็นเรื่องของคนสองคนต้องขอความกรุณา การอยู่ด้วยกันก็ต้อง ค่อยทำงานไปด้วยกัน ตนรู้จักกับท่านมานาน แต่ไม่เคยทำงานด้วยกันก็เป็นเรื่องที่จะต้องพัฒนาความสัมพันธ์กันไป มั่นใจว่าจะสามารถทำให้ท่านมีความสุขได้ และก็อยากให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ

นักข่าวถามย้ำว่าสัญญาใจนอกจากมีกับนายวิษณุแล้ว กับทักษิณมีสัญญาใจอะไร หรือไม่ นายเศรษฐา หัวเราะและปฏิเสธว่า ไม่มี ผมก็มีสัญญาใจกับอดีตผู้นำทุกท่าน หลายท่านเรามาตรงนี้ เรามาช่วยกันดูแลประเทศ ใครมีข้อเสนอแนะดีๆ ก็ยินดีน้อมรับ เพราะตนไม่เคยที่จะไม่รับฟังความคิดเห็นของทุกคน แต่ในขีดจำกัดของนายกฯวันนี้กับเมื่อ 17 ปีที่ผ่านมา ก็มีขีดจำกัดที่แตกต่างกันไป พ.ร.บ.การบริหารราชการแผ่นดินก็ต่างกัน แต่สิ่งอื่นใดคนเราต้องทำตัวให้เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว ถ้าเกิดใครมีข้อแนะนำดีๆ มีข้อติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรจะฟังข้อติมากกว่า หากได้ยินเสียงที่อยากได้ยินตลอด ก็ไม่มีการพัฒนา ตนมั่นใจที่มายืนอยู่ตรงนี้ได้เพราะทำตัวน้ำไม่เต็มแก้วและไม่ได้เลือกฟังแต่เสียงที่อยากได้ยินเพราะจริงแล้วเสียงที่ไม่อยากได้ยินอาจเป็นเสียงที่ประเสริฐที่สุดก็ต้องมาพัฒนาและแก้ไขปรับปรุงกันไปไม่ว่าจะเป็นมาจากนายกทักษิณนายกอานันท์นายกชวนถ้าเกิดเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันตนก็พร้อมน้อมรับ ที่จะไปแก้ไขปรับปรุง

ส่วนสัญญาใจที่มีกับพลเอกประยุทธ์มีหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าเรื่องของใจต่อใจที่ผมมีกับท่านนายกฯประยุทธ์ ชัดเจนจุดมุ่งหมายเราเดียวกันเพราะท่านฝากบ้านเมืองไว้ ให้ผมในฐานะนายกคนที่ 30 ต่อจากท่านคนที่ 29 ก็พยายามดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุดวิธีการทำงานแน่นอนว่า แบคกราวด์ของแต่ละท่านแตกต่างกันไปผมมาจากภาคธุรกิจ ท่านมาจากฝ่ายความมั่นคง ผมเชื่อว่าวิธีการหรือแนวทางอาจต่างกันแต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ผมมีความมั่นใจว่าท่านเองมีความปรารถนาดีกับบ้านเมืองอย่างที่บอกว่าวิธีการอาจจะต่างกันไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือจุดมุ่งหมาย”

ผู้สื่อข่าวขอให้นายกฯ ข่าวลือได้หรือไม่ว่านายทักษิณยังอยู่ในประเทศไทย นายเศรษฐากล่าวว่าเมื่อเช้าเจอนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็บอกว่านายทักษิณสบายดี

“ผมมั่นใจว่าท่านไม่ได้ออกนอกประเทศและคิดว่า ท่านพร้อมสู้ เพราะอยู่ต่างประเทศมา 17 ปีแล้ว มันนานพอแล้ว เชื่อว่าวันนี้ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องขวากหนามที่ต้องเข้ามา ก็ต้องว่ากันไป ผมพูดแทนท่านไม่ได้ แต่ผมคิดว่าท่านคงไม่คิดจะไปไหนหรอกครับ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น