“กทม.” รับคำสั่ง “ชัชชาติ” ร่วมสตง.สอบจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ถ้าเจอทุจริตฟ้องป.ป.ช.เอาผิด

นายชัชชาติ ระบุอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่ายังมีความน่าดีใจอีกอย่าง จากการที่ ACT หรือ องค์การต่อต้านคอรัปชั่น ได้ทำโปรแกรมที่ได้นำเอาข้อมูลจากกรมบัญชีกลางมาใช้ ai ในการวิเคราะห์ลักษณะการประมูลได้อย่างละเอียด ทำให้ข้อมูลนี้โผล่ขึ้นมา ให้ได้สังเกตได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะปัจจุบัน มันไม่มีความลับในโลก ดังนั้นใครที่จะทำหรือมีปัญหาอะไรประชาชนจะเห็นได้ โดยหลังจากนี้ทางด้านของกทม. จะมีการดำเนินการต่ออย่างจริงจัง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์กีฬาในทุกศูนย์กีฬา ว่ามีปัญหาเกิดขึ้นที่ใดหรือมีการทำตามรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่มีจุดช่องโหว่ที่จะต้องนำมาปรับปรุงหรือไม่ และมีผู้ใดที่ดำเนินการอย่างไม่โปร่งใสหรือไม่

ผู้สื่อข่าว ถามต่อว่าในมุมมองของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มองว่า การจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์กีฬาดังกล่าวถือว่า แพงหรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า ราคาดังกล่าวถือว่าแพง แต่จะต้องดูว่า ราคาดังกล่าวมีการรวมเรื่องใด และตนก็เข้าใจที่หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ชี้แจงมา ว่าราคาดังกล่าวมีการรวมค่าบำรุงรักษา แต่ทั้งนี้ ตนก็ยังไม่ได้ดูรายละเอียด ตนจึงไม่สามารถที่จะไปรับรองเรื่องตัวเลขที่เกิดขึ้นได้ทันที แต่เข้าใจที่ประชาชนส่วนใหญ่ว่าราคาดังกล่าวแพง ก็คงต้องแพง ซึ่งต้องให้บุคคลที่ผิดชอบชี้แจง เรื่องการประมูล การทำราคากลาง ซึ่งยังมีกระบวนการและระเบียบในการปฏิบัติ และต้องดูว่า มีช่องโหว่ตรงจุดไหนอย่างไร ยอมรับว่ามีความไม่สบายใจ และต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ หากพบว่าใครทำผิดก็ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อไป

ทั้งนี้ภายหลังการให้สัมภาษณ์ทีมข่าว TOP NEWS นายชัชชาติ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการแถลงข่าวเพื่อตอบข้อสงสัยในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

ขณะที่มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ทางด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบโครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ และศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) นั้น กทม. ได้ให้ความร่วมมือกับ สตง. อย่างเต็มที่ในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใส โดยขณะนี้ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนการจัดซื้อครุภัณฑ์ฯ ของศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ส่งให้ สตง. เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลและจัดเตรียมเอกสารในส่วนของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศส่งให้เพิ่มเติมต่อไป

รวมถึงศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร (ศปท.กทม.) ได้นำเรื่องกรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ และศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการที่ผู้ ว่าฯกทม.ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน หากพบว่ามีมูลการทุจริตจะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) และหากผิดวินัยจะส่งทางปลัด กทม. ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบได้ด้วยตนเองผ่าน actai.co

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะร่วมดำเนินการกับ สตง. และภาคีต่าง ๆ ตรวจสอบโครงการอื่น ๆ ด้วยความละเอียด รอบคอบและโปร่งใสต่อไป

ด้านนายสมบูรณ์ หอมนาน รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม. ให้ความสำคัญในการดำเนินการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการ e-bidding ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ทุกประการ ส่วนที่มาของราคากลางนั้น จะต้องตรวจสอบว่าได้ดำเนินการสืบราคาจากท้องตลาด เป็นไปตามที่ระเบียบและหนังสือสั่งการกำหนดหรือไม่

โดยในวันที่ 6 มิ.ย. 67 เวลา 08.30 น. ทางกทม.ได้เชิญสื่อมวลชนรับฟัง โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รองผู้ว่าฯ ศานนท์ หวังสร้างบุญ และตัวแทนจาก ACT จะร่วมตอบคำถาม ข้อสงสัยในการซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ และศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ ณ หน้าห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)