ย้อนไทม์ไลน์ “ท็อปนิวส์” ทำหน้าที่สื่อตรวจสอบ “อนุรักษ์” โดนศาลฎีกาคดีอาญานักการเมือง ลงโทษจำคุก 6 ปี

ย้อนไทม์ไลน์ "ท็อปนิวส์" ทำหน้าที่สื่อตรวจสอบ "อนุรักษ์" โดนศาลฎีกาคดีอาญานักการเมือง ลงโทษจำคุก 6 ปี

เปิดไทม์ไลน์ “ท็อปนิวส์” ทำหน้าที่สื่อตรวจสอบ “อนุรักษ์” โดนศาลฎีกาคดีอาญานักการเมือง ลงโทษจำคุก 6 ปี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.95/2566 ที่ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย และ นายสถาพร เกื้อสกุล ผู้ประกาศข่าวรายการ TOP บ่ายสาม ช่องท็อปนิวส์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 กรณีนำเสนอข่าว นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต สส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย เรียกรับเงิน 5 ล้านบาทคลาดเคลื่อน ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ประกอบมาตรา 83 ฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 100,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งท็อปนิวส์ยืนยันว่า การนำเสนอข่าวดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบของสื่อมวลชน เนื่องจากเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสังคม และต่อมาศาลฏีกาเองก็ได้มีคำพิพากษาว่านายอนุรักษ์มีความผิดฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองตลอดไป และต่อมาศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พิพากษาว่านายอนุรักษ์มีความผิด สั่งจำคุกถึง 6 ปี ก่อนจะให้ประกันตัว และเจ้าตัวยื่นอุทธรณ์

ทั้งนี้ไทม์ไลน์กรณีดังกล่าวมีดังนี้

-6 มกราคม 2566 รายการท็อปบ่าย 3 ได้นำเสนอข่าวศาลฎีกาอ่านคำพิพากษากรณี ป.ป.ช.ได้ร้อง นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีตสส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตราฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีนายอนุรักษ์เรียกรับเงินจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยในวันดังกล่าวศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า นายอนุรักษ์ เรียกเงินหรือขอผลประโยชน์จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจริง แลกกับการผ่านงบประมาณ เป็นการไม่ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จึงได้พิพากษาว่า นายอนุรักษ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้นายอนุรักษ์พ้นจากตำแหน่ง สส.มุกดาหาร นับแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายอนุรักษ์ตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายอนุรักษ์เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา

-20 มกราคม 2566 นายอนุรักษ์เดินทางไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ฟ้องร้องผู้ประกาศข่าวท็อปนิวส์ 2 คน คือ นางสาวอุบลรัตน์ เถาว์น้อย และ นายสถาพร เกื้อสกุล ในความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กล่าวหาว่าช่องท็อปนิวส์ นำเสนอข่าวไม่ตรงความเป็นจริงหลายครั้ง เพราะไม่ชอบพรรคเพื่อไทย นำเสนอข่าวโดยการสร้างหลักฐานเท็จ ประกอบกับคดีนี้ในทางอาญายังอยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้นศาลฎีกา คดียังไม่ถึงที่สุด แต่การนำเสนอข่าวของสื่อสำนักนี้ เหมือนกับพิพากษาตนไปแล้ว จึงออกมาปกป้องสิทธิ์ของตนเอง

-25 กุมภาพันธ์ 2566 คดีอาญาของนายอนุรักษ์ อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

-25 เมษายน 2566 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกนายอนุรักษ์ 6 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแลกกับการผ่านงบประมาณ ส่วนคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนั้น ศาลฏีกาได้มีคำสั่งไปแล้ว หลังศาลมีคำพิพากษา นายอนุรักษ์ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์คดี โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท

 

คดีของนายอนุรักษ์ และ ท็อปนิวส์ เดินหน้าต่อ

-17 เมษายน 2567 คดีเข้าสู่การพิจารณาของศาล มีการนัดสืบพยานทั้งโจทย์และจำเลย หลังเสร็จสิ้นการสืบพยาน ปรากฏว่าได้มีนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนายอนุรักษ์ เดินทางเข้ามาพูดคุย กับคุณสถาพร ว่านายอนุรักษ์อยากจะไกล่เกลี่ย ไม่อยากมีปัญหากับสื่อ แต่ต้องการเอาผิดฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เพียงเท่านั้น โดยขอให้ท็อปนิวส์เปิดพื้นที่ให้ได้ชี้แจง เจ้าตัวจะขอมาสัมภาษณ์ในช่องท็อปนิวส์ แล้วจะถอนฟ้อง

-ต่อมานายอนุรักษ์ได้มาสัมภาษณ์ที่ช่องท็อปนิวส์ ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2567 และหลังจากที่รายการออกาอากาศไปแล้ว ทางคุณสถาพรก็ยังได้พูดคุยเรื่องคดีกันกับนายอนุรักษ์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่าจะทำเรื่องถอนฟ้องให้ แต่ที่สุดก็ไม่ได้มีการถอนฟ้องแต่อย่างใด

-6 มิถุนายน 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำตัดสิน โดยได้พิพากษาว่า นายสถาพรและนางสาวอุบลรัตน์ ทั้ง 2 นำเสนอข่าวหมิ่นประมาท ทำให้นายอนุรักษ์เสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากวันที่รายการออกอากาศคดีอาญายังไม่ถึงที่สุด พิพากษาลงโทษจำคุก นางสาวอุบลรัตน์ และ นายสถาพร คนละ 2 ปี รอลงอาญา ปรับคนละ 100,000 บาท ซึ่งทางทีมทนายความเตรียมจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น