“ทนายไพศาล” พาญาติ “น้องหมิง“ พบตร. ท้วงติงข้อคาใจ คำพูดแม่ ”แซน“ มือฆ่าแฟนสาว จี้แจ้งข้อหาเพิ่ม

ทนายไพศาล พาญาติผู้เสียชีวิต พบตำรวจ จี้ให้แจ้งข้อหาเพิ่ม และตามหาตำรวจปากเบา สบประมาทญาติผู้เสียชีวิตว่าไร้สมอง พร้อมเตือนมิจฉาชีพในคราบกู้ภัยแอบอ้างช่วยเหลือเหยื่อเปิดบัญชีโอนเงิน ด้านพี่สาวผู้เสียชีวิต สุดคาใจคำพูดแม่ผู้ก่อเหตุ ระบุน้องสาวพูดไม่ได้ ไม่ใช่ไม่อยากพูด

“ทนายไพศาล” พาญาติ “น้องหมิง“ พบตร. ท้วงติงข้อคาใจ คำพูดแม่ ”แซน“ มือฆ่าแฟนสาว จี้แจ้งข้อหาเพิ่ม – Top News รายงาน

 

ทนายไพศาล

 

วันนี้ (7 มิ.ย. 67) เวลา 10.00 น. ที่สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พาแม่ และพี่สาวของ น.ส.วรัญญา หรือ หมิง หมิง ผู้เสียชีวิต ถูกแฟนหนุ่ม ฆ่าปาดคอหั่นข้อมือ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต

โดยนายไพศาล ได้เปิดเผยว่า วันนี้ตนพาญาติผู้ตาย เดินทางติดต่อเรื่องเอกสารรับศพ และติดต่อในเรื่องของคดีความซึ่งญาติและทนายความเห็นพ้องว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มที่หนักกว่า ข้อหาที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ พร้อมสอบถามข้อมูล เกี่ยวกับหลักฐานซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ในโทรศัพท์ ที่มีการนำไปกล่าวอ้างว่า สาเหตุที่นำไปสู่คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญในครั้งนี้ มาจากผู้เสียชีวิตทำร้ายฝ่ายชายก่อน ทั้งที่ไม่เป็นความจริงเพราะผู้ตายเป็นคนดีมาก จึงอยากจะขอข้อมูลในส่วนนี้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และไปเชิญดวงวิญญาณที่ทิ้งศพก่อนจะนำกลับบ้านเกิดที่จังหวัดอุตรดิตถ์

ส่วนประเด็นที่มีกู้ภัยฯ สวมรอยแอบอ้างเปิดรับบริจาค โดยโพสต์ข้อความว่าทางครอบครัวไม่มีเงิน จะดำเนินการรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ขอยืนยันว่า เคสนี้ มูลนิธิร่วมกตัญญู จังหวัดปทุมธานี ที่เข้ามาดำเนินการตั้งแต่ต้น ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น พร้อมยืนยันว่า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่ได้รู้เรื่องการเปิดรับบริจาค และไม่มีการรับเงินไกล่เกลี่ยเพื่อยอมความในคดี ตามที่มีผู้ที่พยายามจะเสนอเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อขอไกล่เกลี่ยคดีดังกล่าว แต่อย่างใด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายไพศาล ยังกล่าวต่อไปว่า วันนี้ทางครอบครัวจะให้ตัวเองเป็นผู้ดำเนินการ ไปสอบถามทางแพทย์นิติเวชว่า สาเหตุการตายที่แท้จริงคืออะไร และยังมองว่าข้อหาที่ตำรวจตั้งเป็นข้อหาที่เบาไป ซึ่งข้อหาการฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นข้อหาที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง จึงจะต้องนำใบยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตไปพูดคุยกับตำรวจให้พิจารณาแจ้งข้อหาให้หนักกว่านี้ เพราะจากข้อมูลที่ได้มาพฤติการณ์การก่อเหตุต่างๆและการนำศพไปทิ้งอำพรางทุกอย่างเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นตำรวจนายหนึ่งติดต่อ หาครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่า ให้มาติดต่อขอความร่วมมือกับตำรวจไม่ใช่ไปออกสื่อก่อนและมีคำพูดที่ไม่เหมาะสมว่า “ไม่มีสมองหรืออย่างไร” จึงต้องมาสอบถามว่า ใครเป็นคนพูด และมีการพูดแบบนั้นจริงหรือไม่ ซึ่งมองว่า ครอบครัวทุกข์ทรมานมากพออยู่แล้วที่สูญเสียลูกสาวไป เรื่องนี้ได้รับการบอกข้อมูลมาจากพี่สาวของผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นตำรวจโรงพักนี้ จึงต้องมาสอบถามข้อเท็จจริง

ส่วนประเด็นเรื่องการขอไกล่เกลี่ยด้วยเงินจำนวน 50,000 บาท ยืนยันว่าไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ไม่ว่าจะมีการอ้างว่ามีอาการป่วยทางจิต หรือเรื่องอายุ เพราะเป็นคดีอาญา ยืนยันว่า ทางครอบครัวจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด การที่ผู้ต้องหาอ้างเหตุป่วยทางจิต น้อยมาที่ศาลจะยกฟ้อง ซึ่งที่ผ่านมาพฤติกรรมผู้ก่อเหตุก็ใช้ชีวิตมาปกติ และวันเกิดเหตุยังมีกล้องวงจรปิด และพฤติการณ์การก่อเหตุขณะเอาชิ้นส่วนมาโยนทิ้งแม้ว่าจะยังไม่ได้รับสารภาพ ซึ่งมองว่าเป็นการแสดงแกล้งป่วย

 

ส่วนติดต่อพูดคุยระหว่างครอบครัวผู้ก่อเหตุกับครอบครัวผู้เสียชีวิต มีเพียงติดต่อเข้ามาตอนช่วงออกรายการหนึ่งทางโทรทัศน์ ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะมีข้อมูลหรือคำพูดอะไรที่ดีกว่านี้ แต่ก็มีเพียงคำพูดว่าอยากขอโทษคุณแม่ผ่านรายการแค่นั้น และจะขอไปคุยอีกครั้งภายหลัง ในฐานะทนายความของคอบครัวผู้เสียชีวิต รับไม่ได้ ดูแล้วไม่ได้มีความจริงใจ

ขณะที่แม่และพี่สาวผู้เสียชีวิต ซึ่งต่างก็มีอาการโศกเศร้า โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ซึ่งร้องไห้ตลอดเวลา โดยพี่สาว เปิดเผยว่า ได้เห็นพฤติกรรมและอาการของผู้ก่อเหตุ ผ่านสื่อ รู้สึกพูดอะไรไม่ออก พร้อมย้ำว่าตอนนี้ไม่ได้กังวลในส่วนของคดีแล้วเพราะยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่ และมีทนายยื่นมือเข้ามาช่วย พร้อมย้ำว่าไม่มีการเปิดรับบริจาคจากทางครอบครัว

ทั้งนี้ยังติดใจในประเด็นแม่ผู้ก่อเหตุ ที่ตัวเองถามว่า “มีอะไรจะพูดกับหนูไหม” แม่ผู้ก่อเหตุตอบว่า “ไม่มีอะไรจะพูด” จึงถามย้ำไป ว่า “น้องหนูเสียชีวิตไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรือ” เค้าบอกว่า “น้องสาวยังไม่พูดอะไรเลยทำไมต้องพูด” จึงอยากจะบอกไปถึงแม่ของผู้ต้องหา ว่า “ที่น้องสาวไม่พูดก็เพราะว่าน้องสาวตายเลยพูดไม่ได้”

หลังจากนี้ หลังพูดคุยกับทางตำรวจและดำเนินการเรื่องเอกสารทั้งหมดเสร็จสิ้น ทนายความ และครอบครัวผู้เสียชีวิต จะเดินทางไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เพื่อติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิต และสอบถาม สาเหตุการเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณที่ทิ้งศพก่อนจะนำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาบ้านเกิดในจังหวัดอุตรดิตถ์ตามหลักศาสนาคริสต์ต่อไป

  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น