ศูนย์ต่อต้านทุจริตกทม.ส่งรายงาน “ชัชชาติ” ปมซื้อเครื่องออกกำลังกาย ส่อไม่โปร่งใส เร่งสอบอีก 14 โครงการ

ศูนย์ต่อต้านทุจริต กทม. พบมูลซื้อเครื่องออกกำลังกายส่อทุจริต พร้อมขยายผลสอบ 14 โครงการ ออกคำสั่งโยกหน่วยงานรับผิดชอบเพิ่มประสิทธิภาพตรวจสอบ พบส่อทุจริต เสนอตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัย

ศูนย์ต่อต้านทุจริตกทม.ส่งรายงาน “ชัชชาติ” ปมซื้อเครื่องออกกำลังกาย ส่อไม่โปร่งใส เร่งสอบอีก 14 โครงการ – Top News รายงาน

 

 

วันนี้ (7 มิ.ย.67) นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) รายงานต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กรณีที่ ศตท.กทม. ร่วมกับสำนักงานป.ป.ช. ตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสำหรับศูนย์กีฬา จำนวน 5 โครงการ พบว่ามีประเด็นข้อบกพร่องและมีมูลที่ส่อการทุจริต ซึ่งอาจผิดกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) จึงรวบรวมข้อมูลเสนอให้ปลัดกรุงเทพมหานครพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัยและส่งดำเนินคดีอาญาต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้ ศตท.กทม. ร่วมกับสำนักงานตรวจสอบภายในของกทม. ขยายผลการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายทั้งหมดทันที รวม 14 โครงการ พร้อมสั่งการให้ชะลอโครงการที่อยู่ระหว่างการตรวจรับและส่งมอบเพื่อรอการตรวจสอบของ ศตท.กทม. ต่อไป ขณะเดียวกัน ศตท.กทม. พร้อมเดินหน้าเชิงรุกตรวจสอบ ต่อข้อสงสัยในโครงการประชาสัมพันธ์มหานครแห่งกีฬา และโครงการอื่น ๆ อีกด้วย

 

คำสั่งปรับการดูแลหน่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 1704 /2567 ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองปลัดกรุงเทพมหานครปฏิบัติราชการแทนปลัดกรุงเทพมหานคร ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยมอบหมายให้นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับผิดชอบสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เพิ่มเติมอีกหน่วยงานหนึ่ง เนื่องจากนายณัฐพงศ์ เป็นผู้รับผิดชอบดูแลศูนย์ ศตท.กทม. เพื่อให้สามารถดำเนินการตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ถึง 2 ปี ข้าราชการทุจริตออกไปแล้ว 29 ราย

สำหรับสถิติการดำเนินการของ ศตท.กทม. ซึ่งก่อตั้งเมื่อ ต.ค. 2565 ได้มีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 781 เรื่อง ในจำนวนนี้มีมูลทุจริต 56 เรื่อง ได้ดำเนินการถึงขั้นสอบสวนทางวินัย 44 เรื่อง และมีการปลดออกและไล่ออกจากราชการ รวม 29 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณา 12 เรื่อง ส่งต่อให้ สำนักงานป.ป.ช. หรือ สำนักงานป.ป.ท. จำนวน 5 เรื่อง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า
มัสก์จี้ข้าราชการอเมริกันเขียนรายงานวันๆทำอะไรบ้าง
ผู้ปกครองพา "ด.ช.วัย 13" ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวสอง สร้างไอจีปลอม ลวงทำอนาจาร
"ทักษิณ" เอ่ยขออภัยเหตุการณ์ "ตากใบ" ปี 47 ลั่นไม่ตกใจ เหตุบึ้มรถในสนามบินนราฯ รับลงชายแดนใต้
“ทักษิณ” ลั่นปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องจบในรัฐบาลนี้ ยึดการพูดคุย เป็นแนวทางสร้างสันติสุข
เลขาธิการ สปส. แจงเสถียรภาพ "กองทุนประกันสังคม" ย้ำชัดสิทธิประโยชน์ดีเพิ่มขึ้นทุกปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น