“ดร.พิพัฒน์” ห่วงไทยดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด แนะ”สมศักดิ์” ควรฟัง 2 ฝ่าย เร่งทำแผนแม่บท 5 ปี รับกระแสโลก สร้างพืชศก.การแพทย์

"นายกสมาคมนักวิจัย" แนะ "สมศักดิ์" ควรทำแผนแม่บทกัญชา 5 ปี ทำมาตรฐานกัญชา ผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา อย่ากลับไปมา จะกลายเป็นตัวตลกในสายตาชาวโลก

“ดร.พิพัฒน์” ห่วงไทยดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด แนะ”สมศักดิ์” ควรฟัง 2 ฝ่าย เร่งทำแผนแม่บท 5 ปี รับกระแสโลก สร้างพืชศก.การแพทย์ – Top News รายงาน

 

ดร.พิพัฒน์

 

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 รศ.ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย เป็นห่วงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แนะให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข ควรทำแผนแม่บทเรื่องกัญชา สร้างมาตรฐานของกัญชาให้เป็นสากล และให้ผลักดันพ.ร.บ.กัญชาอย่างเร่งด่วน

นายกสมาคมนักวิจัยฯ กล่าวว่า นายสมศักดิ์ บอกว่าจะฟังความสองข้างแต่ดูแล้วเหมือนมีธงตั้งไว้ว่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ต้องดูให้ดีเพราะว่าชาวโลกเริ่มนำกัญชาออกจากยาเสพติด ประเทศที่เอาออกแล้วไม่มีทางเอาเข้ากลับไปใหม่ ตัวอย่างประเทศเยอรมันที่เพิ่งจะปลดล็อก ด้านสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะปลดล็อกทั้งประเทศคือการแก้กฏหมายประเทศ ทําวิจัยทําเรื่องกัญชาทางการแพทย์ ตนป็นนักวิจัย เห็นสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกที่เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเมื่อ 50 ปีก่อน แต่ตอนนี้ทยอยปลดล็อกแต่ละรัฐ ครึ่งประเทศ ส่วนประเทศไทยปลดออกมาแล้วเราแซงหน้าสหรัฐฯ แล้วเราจะเอากลับเข้าเป็นยาเสพติดใหม่ แล้วถ้าเกิดเรากลับเข้าเป็นยาเสพติดใหม่ ภายในปีนี้หรือต้นปีหน้า สหรัฐอเมริกาประกาศปลดล็อกทั้งประเทศ เราไม่ต้องกลับตามก้นเขาหรือไม่ ส่วนคณะกรรมการชุดปลดออกจากยาเสพติดหรือคนที่จะนำกลับไปเป็นยาเสพติดเกือบ 90% ก็เป็นคนเดิมคณะกรรมการชุดเดิม จะอธิบายอย่างไร ตอนปลดออกมันยากเย็นแสนเข็ญ ต้องตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแล้วก็มีมติปลดออกมาเป็นระลอกๆ พอปลดเสร็จก็มีเหตุผลอย่างดีว่าปลดเพราะอะไร ถึงเวลาหนึ่งจะกลับมากลืนน้ำลายหรือ ประเทศไทยในสายตาชาวโลกมองว่ากลับไปกลับมา

ข่าวที่น่าสนใจ

รศ.ดร.พิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราพลาดในหลายเรื่อง ทั้งการรณรงค์ให้ความรู้กับผู้คน กลายเป็นว่าพอปลดล็อกมา กระทรวงศึกษาธิการ วัด ห้ามเอากัญชาเข้าไปในโรงเรียน ซึ่งเป็นคนละเรื่อง ต้องนำความรู้เข้าไปสอนให้เด็กได้รับรู้เรื่อง เอนโดแคนนาบินอยด์ เรื่องอะไรต่างๆ การรักษาโรค ประโยชน์ของกัญชา เราไม่ได้ทําสิ่งเหล่านี้ ไม่ให้องค์ความรู้ เมื่อไม่ทําตอนนั้นความเข้าใจก็ยังเหมือนเดิม กลายเป็นปลูกฝังว่ากัญชายาเสพติดมีมานาน 60 ปียังฝังหัวเด็กและเยาวชนอยู่ ตรงนั้นข้อดีไม่มีใครพูด ไม่มีใครทําเป็นเรื่องเป็นราว มีอยู่นิดหน่อยที่อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ที่ทําหลักสูตรกัญชาศาสตร์ของกศน.ออกมา ส่วนคนอื่นไม่ทำ แถมโรงเรียนขึ้นป้ายห้ามกัญชา ไม่ต้องห้าม ต้องเข้าไปให้เกิดการเรียนรู้

“ทางออกของเรื่องนี้ผมมองว่าขณะนี้คนที่ขับเคลื่อนออกมาว่าต่อต้านการเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด กลายเป็นเหมือนสายเขียว สายนันทนาการหมด ทั้งที่คนใช้กัญชามีจำนวนมาก คนป่วย นักธุรกิจกัญชา ทางออกที่ดีที่สุด ต้องออกกฎหมายเฉพาะ จะปรับอะไร จะเพิ่มโทษก็ว่ากันไปเต็มที่แล้วคุมให้มันเข้ม ปัจจุบันนี้นักวิจัยทั้งไทยและต่างประเทศ ได้หันมาทำวิจัยเรื่องกัญชา ลูกศิษย์ผมทำธุรกิจด้านโปรดักส์ ในมหาวิทยาลัยเกษตร ก็ทำเรื่องวิจัยรักษามะเร็งกับสุนัขที่เป็นมะเร็งเอา CBD ไปทดลองรักษา เรื่องของการทำเป็นแคปซูลเรชั่นที่จะผลิตออกไปแล้วให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้นตัวเม็ดยาทําวิจัย และมีอีกหลายเรื่องที่ทำวิจัยเรื่องกัญชา ปัญหาของการทําวิจัย รัฐบาลไม่ได้ส่งเสริมส่วนใหญ่หาทุนวิจัยกันเอง”

 

รศ.ดร.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ทางออกที่รัฐบาลควรทําไม่ใช่นำเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ข้อเสนอคือรัฐบาลจะต้องทําแผนแม่บทในเรื่องของกัญชาหรือว่าเรื่องของกัญชาเป็นแผนยุทธศาสตร์กัญชาของชาติ 5 ปีข้างหน้าจะต้องมีอะไร จะต้องทํายังไง ต้องให้เป็นตัวนําเศรษฐกิจอย่างไร ไม่ใช่ไปมองว่ากัญชาทําร้ายผู้คน รัฐมนตรีสมศักดิ์ไปบอกว่า มีการใช้ยารักษาผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้น พูดง่ายเกินไปมันไม่ใช่พูดเหมารวมว่ากัญชาทําให้รัฐบาลต้องจ่าย 15,000 ล้านบาทมารักษาผู้ป่วยกัญชา อันนี้มันพูดแบบมักง่าย ข้อที่หนึ่งคือ ควรจะทําแผนแม่บทยกตัวอย่างประเทศแคนาดาให้ทําแผนแม่บทว่าเขาจะต้องผลิตซีบีดีให้ได้เท่าไหร่ในปีนั้น ปีนี้ต้องปลูกเท่าไหร่

ข้อที่สองก็คือ จะต้องทํามาตรฐานของกัญชาทั้งระบบ มึหน่วยงานรับรองมาตรฐานต่างๆ เพราะที่ผ่านมาโกเวอร์คนปลูกมีมาตรฐานฟาร์มหรือไม่ ได้มาตรฐานสากลหรือไม่ ต่างประเทศเขาจะสั่งซื้อเพื่อไปทำยา ทำธุรกิจ เราจะต้องมีมาตรฐานกลาง หรือมาตรฐานสากลเพื่อส่งออกเพราะฉะนั้นภาครัฐต้องมากําหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และข้อที่สามก็คือ ต้องออกพ.ร.บ.เท่านั้นถึงจะดีที่สุด การเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดมองว่าไม่เกินอีก 5 ปีก็ต้องเอาออกมาใหม่อยู่ดี แล้วคนที่เอาเข้าไปตอนนี้จะกลายเป็นตัวตลก

 

ดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น