ครูพี่เลี้ยง “ร้องสายไหมต้องรอด” หลังทนมานานเกือบ 5 ปี เพื่อนบ้านเพี้ยน กลั่นแกล้ง ด่าทอ ข่มขู่เช้า-เย็น

ครูพี่เลี้ยง "ร้องสายไหมต้องรอด" หลังทนมานานเกือบ 5 ปี เพราะถูกเพื่อนบ้านหลอนยา ขว้างปาสิ่งของ ด่าทอ ข่มขู่เช้า กลางวัน เย็น ล่าอ้างถูกผู้เสียหายทำคุณไสยใส่

Top news รายงาน นางยุคลธร ไม้เกตุ อายุ 57 ปี ครูพี่เลี้ยงพร้อมครอบครัวเดินทางเข้าร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด โดยนางยุคลธร เล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2563 คู่กรณีที่เป็นเพื่อนบ้านเริ่มด่าทอครอบครัวของเธอโดยช่วงแรกตนไม่รู้ จนกระทั่งคู่กรณีเอ่ยชื่อลูกชายคนเล็กจึงทำให้รู้ว่าที่ผ่านมาคู่กรณีด่าทอครอบครองของเธอด้วยถ้อยคำหยาบคายมาตลอด ซึ่งคู่กรณีด่าครอบครัวของตนทั้ง เช้า – กลางวัน – เย็น – ก่อนนอน

 

 

 

 

 

ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อนไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียงกัน โดยคู่กรณีมีอาชีพเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งลูกชายของเธอมักจะเรียกใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกันตนจึงไม่รู้ว่าการที่คู่กรณีหรือเพื่อนบ้านคนดังกล่าวมาด่าครอบครัวของตนเพราะอะไร

จนกระทั่ง พฤษภาคม 2564 สามีของเธอเริ่มทนพฤติกรรมแบบนี้ไม่ไหว จึงได้ตัดสินใจ เรียกคู่กรณีมาคุยที่บ้านของตน ซึ่งทางคู่กรณีก็ยอมรับว่าตัวเองมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจนเกิดอาการหลอนไปเอง คิดว่าถูกลูกชายคนเล็กของครอบครัวตนไปด่าทอ ทางคู่กรณีจึงได้ขอโทษ และรับปากว่าจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก แต่ผ่านมาได้แค่สัปดาห์เดียวคู่กรณีก็เริ่มมีพฤติกรรมที่หนักขึ้นนอกจากด่าทอด้วยคำหยาบคายแล้วก็เริ่มปาสิ่งของ ครกหิน สากหิน เขียง ก้อนหิน และกระทะไฟฟ้า

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังจากนั้นครอบครัวทนไม่ไหวจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน. หลักสอง เพื่อให้มาดำเนินการคดีกับคู่กรณีทางพฤติกรรมที่ด่าทอปาของและต้องการให้ตรวจสารเสพติด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกครอบครัวว่า “ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ” นอกจากนี้เมื่อปลายปี 2564 เรื่องนี้กลายเป็นข่าวทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแจ้งข้อหากับคู่กรณีเป็นคดีทำลายทรัพย์สินทำให้เสียทรัพย์ทางคู่กรณี จึงได้ชดใช้เงินมาเป็นจำนวนเงินประมาณ 40,000 บาทหลังจากนั้นคู่กรณีก็ได้เงียบหายประมาณหนึ่งปี

 

 

ต่อมา สิงหาคม ปี 2566 คู่กรณีได้ทุบกำแพงจากฝั่งบ้านตัวเองทำให้รั้วบ้านของตนพัง จนไปแจ้งความที่สน.หลักสอง เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกนัดไปไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 66 ทางคู่กรณีก็มาซ่อมแซมให้ แต่ปัจจุบันก็กลับมาด่าทอ ครอบครัวของตนด้วยคำหยาบคายเหมือนเดิม คู่กรณีกล่าวหาว่าครอบครัวของตนไปขโมยของภายในบ้านของคู่กรณีซึ่งตน ยืนยันว่าไม่เคยเข้าไปภายในบ้านของคู่กรณีมาก่อน
ซึ่งคู่กรณียังไปโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในกลุ่มของหมู่บ้านว่าบ้านของตน เลี้ยงผีและไปทำของใส่บ้านของคู่กรณีจนทำให้ถูกผีอำ

และที่เดินทางมาร้องเรียนวันนี้ เพราะว่า ครอบครัวรู้สึกไม่ปลอดภัย ตั้งแต่คู่กรณีมีพฤติกรรมแบบนี้มา 5 ปีครอบครัวก็ไม่เคยรู้สึกปลอดภัยอีกเลยคู่กรณียังมีการข่มขู่ว่าจะทำร้ายครอบครัวของตน เพราะก่อนหน้านี้ทางคู่กรณีก็เคยจะทำร้ายร่างกายลูกชายของตนแต่มีคนเข้ามาช่วยไว้ทัน

นอกจากนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 67 คู่กรณีคนดังกล่าวได้บุกไปหาตนภายในศูนย์เด็กเล็กที่ตนทำงานอยู่ซึ่งภายในศูนย์เด็กเล็กนั้นก็มีเด็กอายุ 2-5 ขวบประมาณ 293 คน ตนจึงกลัวว่าเด็กและบุคลากรภายในศูนย์เด็กเล็กจะได้รับอันตรายจึงได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. หลักสองแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่า “คิดมากไปหรือเปล่า“

 

ด้านนางสาวยุพาภรณ์ ไม้เกตุ ลูกสาว เผยว่า คู่กรณีเป็นชายวัยเกือบ 40 ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพัง โดยทางแม่ของคู่กรณีก็ไม่สามารถห้ามปรามหรือควบคุมพฤติกรรมของลูกชายได้ แม่ของคู่กรณี อ้างว่า ถ้าไปด่าลูกชาย ลูกชายก็จะด่ากลับทุกวันนี้แม่ของคู่กรณีจึงทำเป็นเมินเฉยไม่สนใจว่าลูกชายของตนเองจะมีพฤติกรรมอย่างไร

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายเป็นคุณครู มาร้องเรียนขอความช่วยเหลือ หลังถูกเพื่อนบ้านก่อกวนมาตลอดระยะเวลา 5 ปี ซึ่งเพื่อนบ้านรายดังกล่าวมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งในตอนแรกคู่กรณีก็ยังเคยรับส่งลูกของผู้เสียหายอยู่ตามปกติ แต่หลังจากนั้นก็มีพฤติกรรมด่าทอ และสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ปาข้าวของเข้ามาในบ้านของผู้เสียหายอยู่ตลอด

 

 

 

สิ่งที่ตนเองกังวลใจคือคู่กรณีซึ่งเป็นเพื่อนบ้านมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างและตนเองมองว่าไม่เหมาะสมและจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังเคยบุกเข้าไปถึงโรงเรียนที่ผู้เสียหายสอนเด็กเล็กอยู่ ตนเองมองว่าไม่ปลอดภัยกับเด็กนักเรียน เพราะที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์ความสูญเสียที่จังหวัดหนองบัวลำภูมาก่อนแล้ว

ทั้งนี้ตนเองจะประสานไปยังผู้กำกับการ สน.หลักสอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในส่วนที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจตรวจสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุนั้น ตนเองตั้งข้อสังเกตว่า หากไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วจะต้องเป็นหน้าที่ใคร

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค
"หม่องชิต ตู่" ส่งกำลังทหารกว่า 150 นาย คุมเข้มเคเคปาร์ค จับหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ กวาดต้อน 450 เหยื่อต่างชาติ
ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายลอบวางบึ้มหน้าร้านสะดวกซื้อ บันนังสตา ตร.เจ็บ 7 นาย-ชาวบ้านอีก 4 เช้านี้บึ้มรถยนต์อีก หน้าห้างสนามบินนราฯ
พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว
สธ.แจงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน "ค้างคาว" ยังไม่แพร่ระบาดสู่คน
“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต
"กรวีร์" ส่งหนังสือเชิญ "ธนดล" พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ชี้แจง กมธ.ปกครอง ปมที่ดิน สปก.เขาใหญ่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น