BBC และ AFP รายงานว่านายกรัฐมนตรีเม็ตเต้ เฟรดเดอริกสัน ถูกทำร้ายเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ (7 มิย.) ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ขณะเธอลงพื้นที่ที่ย่านเมืองเก่าของกรุงโคเปนเฮเกน พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนร้ายเป็นชายได้เดินปรี่เข้าไปหาผู้นำเดนมาร์กก่อนจะใช้แส้ฟาดไปที่บริเวณบ่าของเธออย่างแรง จนนายกฯหญิงถึงกับเข่าทรุดได้ ส่วนคนร้ายก็พยายามหลบหนีแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตะครุบตัวเอาไว้ได้ทัน
หลังเกิดเหตุ เฟรดเดอริกสันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งคณะแพทย์ที่ทำการรักษาบอกว่าผู้นำหญิงวัย 46 ปีอาการปลอดภัยแล้ว โดยบาดเจ็บไม่รุนแรง แต่มีอาการตกใจและช็อค ซึ่งทางสำนักนายกฯเดนมาร์กได้สั่งงดภารกิจทั้งหมดของเฟรดเดอริกสันในวันเสาร์
เหตุทำร้ายนายกฯหญิงเดนมาร์กมีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่นายกรัฐมนตรีรอเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกียถูกจ่อยิงไปเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม โดยฟิโกมีอาการสาหัสต้องเข้ารับการผ่าตัดแต่เคราะห์ดีที่ไม่เสียชีวิต
ส่วนคนร้ายซึ่งเป็นชายวัย 39 ปี เป็นชาวโปแลนด์ได้ถูกนำตัวขึ้นให้ปากคำต่อศาลเมื่อวานนี้ โดยคนร้ายไม่ยอมรับผิด และบอกกับศาลว่าเขาจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทบไม่ได้ ขณะที่ผลการตรวจร่างกายคนร้ายระบุว่าผู้ต้องหามีอาการมึนเมาคล้ายเสพยาหรือดื่มเหล้า และมีอารมณ์ไม่ปกติ โดยเบื้องต้นคาดว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่ตำรวจจะทำการสอบสวนอยางละเอียดต่อไป และจะควบคุมตัวผู้ต้องหาจนถึงวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาเป็นผู้ต้องสงสัยทำร้ายร่างการเจ้าพนักงานรัฐ ทั้งนี้เหตุร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนเดนมาร์กเข้าร่วมการเลือกตั้งอียูเพียง 2 วัน
หลังเกิดเหตุบรรดาผู้นำประเทศอียูต่างออกมาประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสได้โพสต์ผ่าน X ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ขณะที่ชาร์ลส์ มิเชล ประธานสหภาพยุโรปโพสต์ผ่าน x เช่นกันบอกว่าเขารู้สึกโกรธต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอประณามการกระทำที่ก้าวร้าว ด้านเออร์ซูล่า ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซี (EC) ประณามเหตุทำร้ายผู้นำหญิงว่าเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ
เฟรดเดอริกสันเป็นหัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดของพรรคร่วมรัฐบาลเดนมาร์ก ชนะเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2562 หรือ 5 ปีที่แล้วซึ่งทำให้เธอกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของเดนมาร์ก โดยมีอายุเพียง 41 ปี