เปิดรายงานผลศึกษา พิสูจน์ “กัญชา” ต้นเหตุอาการป่วยจิต เจอเหตุทางการแพทย์ ทำคลาดเคลื่อนสูงมาก
วันที่ 9 มิ.ย. 67 น.ส.จุฑามาศ ภูนีรับ และคณะ จัดทำรายงานผลการศึกษาผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อนจากการใช้กัญชาในจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก โดยการเก็บข้อมูลจากโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดช่วงปีงบประมาณ 2566 (1 ต.ค.65 – 30 กย.66) ได้ข้อสรุปผลการศึกษา ดังนี้
ในชั้นการอภิปราย พบว่า
1.จากผู้ป่วยทั้งหมด 172 ราย ที่มีการอ้างว่าป่วยจากกัญชา หรือมีอาการแทรกซ้อนจากกัญชา ข้อมูลจากเวชระเบียน พบ มีการส่งตรวจหากัญชาในร่างกายเพียง ร้อยละ 36 แสดงว่า อีกร้อยละ 64 วินิจฉัยจากประวัติเท่านั้น จึงมีโอกาสผิดพลาดสูง
2.และที่ส่งตรวจ ก็ตรวจพบกัญชา เพียง 25 ราย คิดเป็น ร้อยละ 40.3 ของที่ส่งตรวจเท่านั้น แสดงว่าวินิจฉัยผิดพลาดไป ร้อยละ 60 ในคนที่ส่งตรวจ
3.คนใช้สารเสพติดรุนแรง เช่น ยาบ้า จะอ้างว่าตนใช้กัญชา เพราะกัญชาไม่ผิดกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ หรือใช้ร่วมกับยาบ้า และผู้ป่วยบางรายขณะมา รพ. อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถให้ประวัติที่ถูกต้อง ชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ได้
4.การตรวจพบกัญชาในร่างกาย ก็ไม่ได้หมายความว่าอาการที่ทำให้ผู้ป่วยมา รพ. เกิดจากกัญชาเพราะกัญชาอยู่ในร่างกายได้นานนับเดือน
5.โรงพยาบาลที่ส่งตรวจมาก 3 อันดับแรก ได้แก่
1) รพ.ก ส่งตรวจ 17 ราย (พบ 0 ราย คิดเป็น ร้อยละ 0) วินิจฉัยว่า เกิดจากกัญชา 18 ราย แปลว่า มีโอกาสวินิจฉัยผิดไป ร้อยละ 100
2) รพ.ข ส่งตรวจ 15 ราย (พบ 6 ราย คิดเป็น ร้อยละ 40 ) วินิจฉัยว่า เกิดจากกัญชา 30 ราย แปลว่า มีโอกาสวินิจฉัยผิดไป ร้อยละ 60
3) รพ.ค ส่งตรวจ 7 ราย (พบ 4 ราย คิดเป็น ร้อยละ 57) วินิจฉัยว่า เกิดจากกัญชา 10 ราย แปลว่า มีโอกาสวินิจฉัยผิดไป ร้อยละ 43