“พิชัย” โชว์วิสัยทัศน์รุกพัฒนา “Data Center” ชูแผนลดต้นทุนไฟฟ้า จูงใจนักลงทุนทั่วโลก

"พิชัย" โชว์วิสัยทัศน์รุกพัฒนา "Data Center" ชูแผนลดต้นทุนไฟฟ้า จูงใจนักลงทุนทั่วโลก

พิชัย” โชว์วิสัยทัศน์รุกพัฒนา “Data Center” ชูแผนลดต้นทุนไฟฟ้า จูงใจนักลงทุนทั่วโลก

ถือเป็นข่าวสำคัญ สืบเนื่องจากการที่ “สัตยา นาเดลลา” ซีอีโอ บริษัท ไมโครซอฟท์ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี ให้เกียรติเยือนประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 ก่อนประกาศจัดตั้ง Data Center แห่งแรกในไทย พร้อมระบุถึงแผนงานยกระดับความสามารถด้าน AI ให้กับคนไทย ในงาน “Microsoft Build: AI Day” ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

พิชัย โชว์วิสัยทัศน์รุกพัฒนา Data Center

 

ขณะที่ นาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในไทย เพื่อเอื้อต่อนโยบาบการลงทุนของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆของโลก โดยการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการผลักดันการลงทุนด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อตอบรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและนวัตกรรมในภูมิภาคนี้

 

ไทยพร้อมเป็นฮับ AI แห่งอาเซียน

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ NEWS HOUR ทางช่อง News1 ว่า ตอนนี้ทั้งโลกแข่งขันกันเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์ อย่างมาก คือถ้าใครมีเยอะๆสามารถจะไปทำ AI ได้ และมีการทำไมโครชิปแข่งกัน ซึ่งบริษัทอันดับ 2 ของโลกที่มีมูลค่าสุด คือเอ็นวิเดีย (NVIDIA) ผู้ผลิตชิปที่มีคุณภาพสูง จนสามารถทำ AI ได้ ทำให้ราคาทางการตลาดพุ่งขึ้นไปอยู่อันดับ 2 รองจากแอปเปิล เหลือเพียงอีกกว่า 10 % จะแซงแล้ว สอดรับราคาหุ้นที่ขึ้นพันกว่าหรียญ

“ฉะนั้นตนอยากเห็นว่าประเทศที่มีการผลิตชิป หรือให้บริษัทต่างๆที่มีความสามารถแข่งขัน เข้ามาแข่งผลิตชิปในประเทศไทย รวมถึงอยากเห็นรัฐบาลทำเรื่องอุตสาหกรรมชิปด้วย เพราะสำคัญมาก ตอนนี้มีการแข่งขันกันสูง แต่เนื่องจากเราเองอาจจะยังไม่ได้เก่ง ต้องไปชักชวนคนอื่นให้เข้ามาทำ เพราะว่าชิปจะเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของธุรกิจอื่นๆ เช่น AI ก็ต้องใช้ชิป ทีวีก็ต้องใช้ชิป โทรศัพท์ก็ต้องใช้ชิป หลายๆอันก็ต้องใช้ชิปกันหมด”

 

เมื่อถามว่ามาเลเซีย เพิ่งเปิดตัวจะทำดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยวงเงินลงทุนประมาณ 7-8 หมื่นล้าน อนาคตข้างหน้ารัฐบาลไทยจะมีเปิดตัวและเคาะรายละเอียดออกมาแบบนั้นบ้างหรือไม่

นายพิชัย กล่าวว่า จริงๆเรากำลังชักชวนหลายบริษัทให้เข้ามาลงทุนและเราเองคงทำควบคู่ไปด้วย เนื่องจากประเทศไทยต้องเพิ่มดาต้าเซ็นเตอร์อีก 114 เท่า ถึงจะมีความสามารถทำให้เกิด AI ได้เท่ากับประเทศอเมริกา เพราะฉะนั้นดาต้าเซ็นเตอร์จะเป็นอนาคตที่จะต้องเกิดขึ้นและขยายตัวอย่างรวดเร็ว

 

“เราศึกษาเยอะ ดาต้าเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นค่าไฟฟ้ามาก เพราะฉะนั้นไฟฟ้าที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ ต้องเป็นไฟฟ้ามาจากพลังงานสะอาด จึงมีแนวคิดถ้าเรานำไฟฟ้าจากลาวมาได้ เราก็สามารถทำดาต้าเซ็นเตอร์แถวชายแดนไทย-ลาวได้ เพื่อทำให้ค่าไฟลาวถูกลง ส่วนดาต้าเซ็นเตอร์ก็ถูกลงได้เช่นกัน และล่าสุดยังมีมีข้อมูลเรื่องสารเคลือบดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งจะทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้ไฟลดครึ่งหนึ่ง เรากำลังตามเรื่องนี้อยู่ เป็นอะไรที่เราต้องมุ่งทำเรื่องนี้ เพราะว่าทั้งโลกเขามุ่งทำเรื่องนี้ และที่ผ่านมาประเทศเราก็ละเลยเรื่องนี้มานาน เรื่องเทคโนโลยี เรื่องธุรกิจสมัยใหม่ พวกนี้ต้องเร่งทำ แต่พวกนี้มันไม่ใช่ได้ดั่งใจเร็วๆ มันก็ต้องใช้เวลา ซึ่งทิศทางตอนนี้เราไปถูกทางแล้ว มีบริษัทต่างประเทศใหญ่ๆเข้ามาลงทุน เข้ามาช่วยทำให้เศรษฐกิจเราขยายตัวเพิ่มขึ้น”

 

ทั้งนี้นายพิชัย เชื่อมั่นว่า ยังไม่ช้าเกินไปสำหรับประเทศไทย เพราะว่าการแข่งขันจะเริ่มดุเดือดขึ้น โดยไทยต้องวางตัวเองให้เป็นจุดกลางสามารถที่จะให้ทุกประเทศเข้ามาลงทุนได้ ตอนนี้อย่างไมโครซอฟก็จะมาลงทุนในไทย กูเกิลก็จะมาลงทุนในไทย เราพยายามที่จะเริ่มต้นทำ จึงต้องใช้เวลาบ้าง แต่เราต้องทำทุกอย่างให้เร็ว เพื่อให้ต่างประเทศสามารถมาลงทุนได้สะดวก และที่สำคัญพลังงานเราต้องสะอาดและมีราคาถูกด้วย ถ้าเกิดต้นทุนของเราแพง เขาอาจจะไปลงที่อื่น ซึ่งตนเสนอในเรื่องของการรวมหน่วยงานไฟฟ้า ทั้ง 3 กฟภ. กฟน. กฟผ. เพื่อให้เป็นหน่วยงานหนึ่งเดียว โอกาสจะทำให้ราคาไฟฟ้าถูกลงก็เป็นไปได้ เนื่องมีการลดความซ้ำซ้อนในเรื่องการคิดค่าใช้จ่ายออกไป แล้วทำให้ประชาชนสามารถใช้ไฟฟ้าถูกลง

“อย่างกฟผ.อยู่กระทรวงพลังงาน , กฟน. กฟภ. อยู่กับมหาดไทย จึงต้องใช้อำนาจของนายกฯทำอย่างไรให้มารวมกันได้ ขนาดเรารวม CAT กับ TOT ได้ ตนว่าการไฟฟ้าก็น่าจะรวมกันได้ ถ้ามันซ้ำซ้อนกัน หรือทำธุรกิจเหมือนกัน ก็ควรที่จะรวมกันเพื่อที่จะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดต้นทุนให้ประชาชนได้ และก็เป็นความสามารถการแข่งขัน ที่จะดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย”

 

ทั้งนี้ ดาต้าเซนเตอร์ (Data Center) หรือศูนย์ข้อมูล ถูกกำหนดเป้าหมายเพื่อรองรับระบบสำคัญๆ เช่น ฮาร์ดแวร์ หรือเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ สำหรับการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัล ในประเทศไทยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เทรนด์การใช้งานด้าน AI, Cloud Computing, Data และ IOT เพิ่มมากขึ้น ทั้งในภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานรัฐบาล

และมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นศูนย์กลางการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลสำคัญขององค์กร รองรับการทำงานของระบบ เช่น ระบบการเงิน ระบบฐานข้อมูลลูกค้า เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการรวมศูนย์ทรัพยากรไอทีไว้ที่เดียว เพื่อความสะดวกในการจัดการและบำรุงรักษา

 

โดยประเทศไทยกำลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการลงทุนด้านดาต้าเซนเตอร์ของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ด้วยปัจจัยหลายประการ ดังนี้

1.ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นจุดเชื่อมต่อที่สะดวกสำหรับการให้บริการ Data Center ในระดับภูมิภาค นั่นหมายถึง ดีมานด์ของการบริการดิจิทัลที่อยู่ในระดับสูง

2.โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะการลงทุนด้านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสงที่ทันสมัย รองรับการรับส่งข้อมูลปริมาณมหาศาล
ต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งด้านค่าแรงงาน ค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่าพื้นที่ เป็นข้อได้เปรียบสำหรับการลงทุน

3.นโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมดาต้าเซนเตอร์ถือเป็นหนึ่งในกิจการเป้าหมายที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการส่งเสริมต่างๆ อาทิ สิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี จาก สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI)

4.กำลังคนที่มีทักษะด้านไอที ประกอบกับต้นทุนแรงงานที่ไม่สูงมาก จึงเอื้อต่อการจ้างงานด้าน Data Center

และมีการคาดการณ์ว่า ปี 2568 มูลค่า “เศรษฐกิจดิจิทัล” ประเทศไทย (GMV) จะทะยานไปแตะ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะมีมูลค่าประมาณ 1-1.65 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2573

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ตร.ตม." ขยายผลรวบ 2 ผู้ต้องหา เอี่ยวคดีอุ้มคนจีนรีดค่าไถ่ 12 ล้าน
เปิดสาเหตุพรรคปชน.ส่งผู้สมัคร นายก อบจ.อีก 12 จังหวัด
ระทึก เปิดภาพนาที "ช้างป่า" บุกรื้อค้น ทำลายร้านขายของชำ พังเสียหาย
สำนึกกี่โมง? “พระปีนเสา” ปลุก FC ฮือบุกทำเนียบ-ท้าตี “หลวงพี่น้ำฝน”
ข่าวดี! “กลุ่มเปราะบาง” ดู “หมูเด้ง” เข้าสวนสัตว์ทั่วไทยฟรี 3 ปี
"ธรรมนัส" ยันลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ปัดช่วย "ผู้สมัคร" หาเสียงชิ้งเก้าอี้ นายก อบจ.
หิมะขาวตกห่มหิน ราว‘เห็ดหิมะ’ ในจีน
เกาหลีเหนือขู่ขยายกองทัพนิวเคลียร์แบบไร้ขีดจำกัด
“บิ๊กเต่า” พบเส้นเงินใหม่จากบัญชีแม่ ถึงนาย ส.อีก 10 ล้าน จ่อส่งให้ DSI ทำคดีฟอกเงิน
ตำรวจเชิญ “ปานเทพ” ให้ข้อมูลเพิ่ม ฐานะพยาน “คดีทนายตั้ม” รู้เบาะแสแบ่งเงิน 39 ล้าน ให้ใครบ้าง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น