ล่าสุด นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความอธิบายชัดๆ กันไปเลย ระบุว่า ทหารมีไว้ทำไม? คือคำถามของผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และระบอบการปกครองของไทย ซึ่งมองเผินๆ ทหารมีไว้รบ แต่ประชาชนจำนวนหนึ่ง คล้อยตามพวกที่เป็นปฏิปักษ์ต่อชาติ เพราะเกิดมา ก็ไม่เคยเห็นทหารไทยไปรบกับใคร แต่คำตอบที่ลึกซึ้งและเที่ยงแท้ ในระดับสากลก็คือ ทหารมีหน้าที่ปกป้องชาติและประชาชน ซึ่งเท่ากับการปกป้องสถาบันหลักของชาติ และปกป้องระบอบการปกครอง
คำว่าสงคราม ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการออกรบในสนามรบเท่านั้น เพราะสงครามในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ เช่น สงครามการค้า สงครามการเมือง สงครามเย็น สงครามจิตวิทยา ซึ่งไม่มีการรบบนสนามรบ แต่ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับการรบในสนามรบ และทหารคือกำลังสำคัญ ที่ถูกฝึกอบรมมา “เพื่อปกป้องชาติและประชาชน ซึ่งเท่ากับการปกป้องสถาบันหลักของชาติ และปกป้องระบอบการปกครอง”
กลุ่มคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และการปกครองของไทย รุกคืบไปทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่โรงเรียนเด็กเล็ก ถึงมหาวิทยาลัย และหน่วยงานราชการ และเอกชนมานานแล้ว ด้วยการสอนวิชาประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครอง หน้าที่พลเมือง อย่างบิดเบือน โดยอาศัยยุทธการที่เรียกว่า “ปฏิบัติการจิตวิทยา” ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากประเทศมหาอำนาจ ผู้อยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครองของไทย
เมื่อกลุ่มสอนเด็กให้ชังชาติเติบโต คนก็ด่ารัฐ พอรัฐหาทางรับมือ โดยขอให้ทหารซึ่งมีความเชี่ยวชาญมาช่วย ก็ด่าทหาร ด่ารัฐ จะเอายังไงกันประเทศไทย? ล่าสุด รัฐเคลื่อนไหวโดยกระทรวงศึกษา ขอกำลังสนับสนุนทหาร ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน “ปฏิบัติการจิตวิทยา” เพื่อรับมือกับการปฏิบัติการจิตวิทยาจากฝ่ายล้มล้าง พวกคุณคนไทยบางคนบางกลุ่ม กลับมองไม่ออก แถมมาถล่มการปฏิการของฝ่ายปกป้องชาติ ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกัน
ทหารกลุ่มนี้ที่เป็นวิทยากร เป็นทหาร หรืออาจารย์พลเรือน ในหน่วยงานทหาร ที่มาจากจิตอาสา 904 ซึ่งเป็นกลุ่มบุคลากรที่มีความสามารถ เรื่องจิตวิทยาการเรียนรู้ของเด็ก
ว่าเด็กในวัยนี้ ควรเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในมิติใดบ้าง เช่น การปลูกฝังให้ซึมซับ ปลูกฝังความรักชาติ รักสถาบัน โดยเอาเรื่องราวที่เป็นวีรกรรมของพระมหากษัตริย์ หรือขุนศึกแต่ละสมัย มาเป็นสื่อในการจัดกิจกรรมปลูกฝังเด็ก
ปฏิบัติการจิตวิทยา คืออะไร นักคิดทางยุทธศาสตร์สงครามกองโจรที่สำคัญ คือ เหมาเจ๋อตุง ได้กล่าวถึง หนทางไปสู่ชัยชนะในสงครามยืดเยื้อ ต้องดำเนินตามแนวทาง 4 ประการ คือ ”ทางการทหาร, การเมือง, จิตวิทยา, และด้านเศรษฐกิจ“ จะเห็นได้ว่าเหมาเจ๋อตุง มุ่งเน้นถึง “การดำเนินการทางด้านจิตวิทยา” เป็นหนึ่งในสี่ของการไปสู่ชัยชนะในการทำสงครามยืดเยื้อ เพื่อการปฏิวัติจีน
การปฏิบัติการจิตวิทยานั้นคืออะไร? ความหมายของการปฏิบัติการจิตวิทยา โดยคณะกรรมการปฏิบัติการจิตวิทยาแห่งชาติ หมายถึงการปฏิบัติกิจกรรมทั้งปวงในด้านการเมือง การทหาร การเศรษฐกิจ และสังคม ที่กระทำต่อเป้าหมายต่างๆ ทั้งฝ่ายตรงข้าม, ฝ่ายเป็นกลาง และฝ่ายเดียวกัน ทั้งในยามปกติและยามสงคราม เพื่อก่อให้เกิดผลเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิดเห็น อารมณ์ ทัศนคติ และพฤติกรรมของเป้าหมายในทางที่จะสนับสนุนผลประโยชน์ของชาติ”
ความหมายของการปฏิบัติการจิตวิทยา ตามหลักนิยมกิจการพลเรือนกองทัพบก พ.ศ.2525 หมายถึง “การเผยแพร่ข่าวสาร ความคิดเห็น ลัทธินิยม หรือการจูงใจต่างๆ รวมทั้งมาตรการอื่นๆ ตามแผนที่ได้วางไว้ จะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม เพื่อให้มีอิทธิพลเหนือจิตใจกลุ่มชนกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการในวิถีทาง ที่จะช่วยสนับสนุนให้บรรลุวัตถุประสงค์ของชาติ”
สรุปความหมายการปฏิบัติการจิตวิทยา คือ
๑. การปฏิบัติตามแผนที่ได้วางไว้
๒. กำหนดเป้าหมายหรือกลุ่มเป้าหมาย
๓. เป้าหมายเปลี่ยนแปลงท่าทีและพฤติกรรม
๔. กระทำเพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์ของชาติ
ความสำคัญการปฏิบัติการจิตวิทยา ปัจจุบันการปฏิบัติการจิตวิทยา ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการดำเนินนโยบายของรัฐ เพื่อบรรลุผลประโยชน์ของชาติ โดยดำเนินการผสมผสานกับเครื่องมือหลักอีก 3 ประการ คือการดำเนินการทางการเมือง การดำเนินการทางเศรษฐกิจ และการดำเนินการทางทหาร
การปฏิบัติการจิตวิทยา ถือเป็นอาวุธหลักของสงครามสมัยใหม่ ปัจจัยทางจิตวิทยา เป็นส่วนประกอบสำคัญยิ่ง อันจะขาดเสียมิได้ในการปฏิบัติการทุกเรื่องในสนามรบ
ดังนั้นการส่งเสริมการปฏิบัติการจิตวิทยา ที่ถูกต้องและเหมาะสม ย่อมสามารถปรับแก้พฤติกรรม และประสิทธิภาพในการรบและหน่วยได้ การใช้การปฏิบัติการจิตวิทยาเป็นอาวุธหลัก โดยมุ่งต่อจิตใจของบุคคลเป้าหมายฝ่ายตรงข้ามแล้ว อาจทำให้ฝ่ายเราได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็ว และประหยัดทรัพยากร
ทำไมเอาทหารไปสอนประวัติศาสตร์? ตัวหลักสูตรหรือเนื้อหา ที่ทหารนำไปสอนนั้นเป็นไปตามหลักสูตรที่กระทรวงกำหนดอยู่แล้ว แต่ที่ทหารลงไปทำกิจกรรมในลักษณะของการเป็นโค้ช เนื่องจากทหารเชี่ยวชาญในเรื่อง “ปฏิบัติการจิตวิทยา” ซึ่งนำลงไปฝึกครูที่เขารับการอบรม ให้ขยายผลไปฝึกเด็กต่อ ในลักษณะการปลูกฝังให้เกิดความรักชาติ รักสถาบัน เห็นความเสียสละของบรรพบุรุษ เพราะการเรียนประวัติศาสตร์ในเด็กระดับประถม มัธยม หลักสูตรจะเน้นเรื่องของการปลูกฝังให้รักชาติ ผ่านเรื่องราวที่เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ครูจะต้องสอนเด็กในลักษณะปลูกฝังความรักชาติ ปลูกฝังทัศนคติ ซึ่งกิจกรรมแบบนี้ ทหารปฏิบัติการจิตวิทยา เป็นผู้มีความถนัดอยู่แล้ว
ดังเช่นในสมัยปี 2522-2523 ที่ตอนนั้นมีโครงการของกลาโหม คือ ทสปช.ลงไปฝึกชาวบ้านในพื้นที่สีแดงสีชมพู