12 มิ.ย. “ศาลรัฐธรรมนูญ” ชี้เป็นชี้ตาย “ก้าวไกล” ชะตาขาดยุบพรรค แต่ยังตะแบงศาลไร้อำนาจ “กกต.” กระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ฉะ “ก้าวไกล” เถียงแบบข้างๆ คูๆ อ้างประชาธิปไตยสารพัด

ยิ่งแถไม่ออกหากอ้างว่าไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครองฯ แต่นโยบายแก้มาตรา 112 แผ่หลาโชว์บนเว็ปไซต์พรรค จะไม่เป็นไปตามมติพรรคได้อย่างไร จนกระทั่งมายอมปลดออกเมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มกราคมปีก่อน จึงเป็นเหตุให้บรรดานักร้องมือปราบคดี 112 ออกมาไล่บี้ 44 สส.ที่ไปร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 ต่อคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ฟันฐานทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ตอกย้ำได้หรือไม่ว่านี้ คือ มติพรรคให้แก้ หรือ ยกเลิกมาตรา 112 ที่ “ก้าวไกล” ปลดนโยบายแก้มาตรา 112 ออกจากเว็ปไซต์ เพราะต้องรีบทำเพื่อหนีตายคดียุบพรรค ใช่หรือไม่

ขนาด “ธนกร วังบุญคงชนะ” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังรับไม่ได้ ออกโรงมาซัดเต็มข้อว่า เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เถียงแบบข้างๆ คูๆ อ้างประชาธิปไตยสารพัด ทั้งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจยุบพรรค ซ้ำยังอ้างว่า กกต.มีกระบวนการยื่นคำร้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายพิธาและพรรคก้าวไกล มีความกังวลค่อนข้างหนัก เรื่องคดีจนทำให้พาลไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม กระบวนการกฎหมายทั้งระบบ แบบนี้จะเป็นผู้นำประเทศที่ดีได้อย่างไร

ยิ่งได้ฟังคำพูดของ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ที่ปรึกษากรรมาธิการการแรงงาน ออกมาซัดกลับ “ก้าวไกล” ที่อ้าง”ศาลรัฐธรรมนูญ” ไร้อำนาจยุบพรรค สะท้อนว่า “ก้าวไกล” เป็นพวก “ยึดแต่กฎของกู ถ้ากูได้ประโยชน์ กูเอา ถ้าเสียประโยชน์ กูด่า” พร้อมกับย้อนเกล็ดแสบว่า ทีตอน “พิธา” รอดคมดาบคดีซุกหุ้นไอทีวี แถลงขอบคุณ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” แต่มาวันนี้กลับมาตะแบงศาลไม่มีอำนาจได้อย่างไร และ ขอฝากถึง “ศาลรัฐธรรมนูญ” มะเร็งเวลาตรวจเจอ หมอให้ทำลายทิ้ง เช่นเดียวกับ พรรคการเมืองที่มีเจตนาทำลายสถาบันก็ต้องยุบทิ้ง ไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง