“สำนักพุทธฯ เพชรบูรณ์” จ่อสั่งปิดที่พักสงฆ์ฉาว “ลัทธิถวายตัว” พระอาจารย์โอ

ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูณณ์ เผย คณะสงฆ์ เตรียมสั่งปิดสำนักสงฆ์ฉาว พร้อม ระบุ เปลี่ยนชื่อไม่ได้

Top news รายงาน จากรณีสองสามีภรรยา ร้องเพจสายไหมต้องรอด ว่า ถูกพระสงฆ์ (พระอาจารย์โอ) เจ้าสำนักสงฆ์สวนธุดงค์สถานวิหารพระมารดร ตั้งอยู่หมู่ 8 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลอกให้มีเพศสัมพันธ์ ทั้งตัวเอง และสามี รวมทั้งมีเซ็กซ์หมู่ โดยอ้างว่า เพื่อเป็นการต่อชีวิตให้กับพระอาจารย์ ที่กำลังจะหมดอายุขัย และหมดพลัง เพราะได้ใช้พลังทั้งหมดช่วยสองสามีภรรยา แล้ว และเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา พระสงฆ์รูปดังกล่าวได้ลาสิกขาแล้ว นั้น

 

 

 

 

ล่าสุดวันนี้ (12 มิถุนายน 2567) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว แต่ได้รับแจ้งว่า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ ติดภารกิจบรรยายการประชุมพระสังฆาธิการนอกพื้นที่

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามนางสาวอัจฉรา ปั้นมูล ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูณณ์ ให้ข้อมูลว่า ตอนที่พระสงฆ์รูปดังกล่าว ((พระอาจารย์โอ)) ลาสิกขา ได้ให้เหตุผลว่า เพื่อความสบายใจของคณะสงฆ์ รวมทั้งเพื่อจะได้ออกไปต่อสู้เรื่องข้อร้องเรียน พิสูจน์ข้อเท็จจริงได้สะดวก ซึ่งเมื่อลาสิกขาแล้ว ก็จะพ้นจากความรับผิดชอบของคณะสงฆ์

 

ส่วนสถานที่เกิดเหตุนั้น เบื้องต้นได้ตรวจสอบแล้ว เป็นเพียงที่พักสงฆ์ ยังไม่ได้เป็นสำนักสงฆ์แต่อย่างใด แต่ถ้าหากมีเสนาสนะ หรือศาสนวัตถุครบตามข้อกำหนดแล้ว อาจจะไปขอเป็นสำนักสงฆ์หรือวัดในลำดับต่อไป ทั้งนี้จากการสอบถามพระสงฆ์ และญาติโยมที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าว ก็ไม่พบว่า มีการเสพสังวาสแต่อย่างใด แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะไปกระทำที่อื่นหรือไม่

 

 

 

 

และที่มีการแจ้งว่า ขณะยังบวชอยู่ ไม่ออกบิณฑบาต หรือรับกิจนิมนต์นั้น มีความผิด หรือกระทำได้หรือไม่ ขอชี้แจงว่าการไม่บิณฑบาตนั้นไม่ได้ข้อกำหนดไว้ว่า มีความผิดหรือไม่ มีเพียงกล่าวไว้ว่า เป็นกิจที่ควรทำ แต่ก็อาจจะเป็นไปด้านว่า อาจจะมีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะทราบว่า ป่วยมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังได้กล่าวถึง กรณีเพจที่พักสงฆ์ดังกล่าวแจ้งว่า จะปรับเปลี่ยนมาเป็น “สำนักบารมีพุทโธรักษา” ว่า ไม่สามารถกระทำได้

 

อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะสงฆ์กำลังดำเนินการร่างหนังสือ เพื่อที่จะสั่งปิดที่พักสงฆ์ดังกล่าว ไม่ให้กระทำกิจกรรมใด ๆ ส่วนพระสงฆ์ที่อยู่ภายในที่พักสงฆ์ ก็จะนิมนต์ให้ท่านกลับไปอยู่ยังวัดต้นสังกัด ส่วนทรัพย์สินภายในที่พักสงฆ์ที่ได้มาจากการบริจาคของญาติโยมก็จะมอบให้กับวัดต้นสังกัดของอดีตพระรูปนี้ ซึ่งทราบมาว่าอยู่ที่จังหวัดหนองคาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“รองโฆษกรัฐบาล” ยืนยันค่าไฟไม่ได้เพิ่ม แต่ลดลงเหลือ 3.99 บ.ต่อหน่วย
โค้งสุดท้าย "พิพัฒน์" นำทีมภูมิใจไทย เคาะประตูบ้าน ชาวเมืองคอน ขอเสียงหนุน "ไสว" เป็นสส.เขต 8
ชาวเมืองน่าน เข้าพบ "นิพนธ์" อดีตรมช.มหาดไทย ผลักดันพิสูจน์สิทธิ ออกโฉนดที่ดินสำเร็จ หลังรอคอยนานกว่า 30 ปี
"สันติสุข" ปลื้มปริ่ม "ในหลวง-พระราชินี" ทรงขับเครื่องบิน เสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏาน ทรงได้รับการถวายพระเกียรติ สุดประทับใจคนไทย
“ทักษิณ” ลั่นไม่สั่งใครเบรค “กัน จอมพลัง” ยุ่งคดีพีช ฟาด "เต้ มงคลกิตติ์" หลังปูดข่าว
"เจ้าอาวาส" สุดทนขึ้นป้าย “ไม่มีเงินให้ขโมยแล้ว” หลังคนร้ายงัดตู้บริจาคหลายครั้ง
“ทักษิณ” กลับเชียงใหม่อีกครััง เปิดให้รดน้ำดำหัว ขอพรในเทศกาลสงกรานต์ ก่อนช่วย “อัศนี” หาเสียงพรุ่งนี้
“นายกฯ” เตรียมลุยประชุม ครม.สัญจร หลังออกจาก รพ.แล้ว จ.นครพนม 28-29 เม.ย.นี้
"ดีอี" ยกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบ “โจรออนไลน์”
"กนก" โพสต์แฟนข่าว "ท็อปนิวส์" เต็มอิ่ม สนุกสุดทัวร์ย้อนประวัติศาสตร์ "ลั่วหยาง-ซีอาน"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น