ตร.บุกจับทลายเครือข่ายอาหารเสริม 2 ยี่ห้อดัง ผสมสาร “ไซบูทรามีน” อันตรายถึงชีวิต

ตำรวจ ปคบ. จับมือ อย. บุกค้น 6 จุด พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ทลายเครือข่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 ยี่ห้อ ผสมสาร “ไซบูทรามีน” ยึดของกลางมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท

Top news รายงาน  วันที่ 13 มิ.ย. 2567 พลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) พร้อมด้วย เภสัชกร วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมแถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมพิชาร์ และ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคุณนุช หลังนำกำลังเข้าตรวจค้น 6 จุด ในพื้นที่ 5 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ยึดของกลาง 72 รายการ มูลค่ากว่า 16 ล้านบาท

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยพลตำรวจตรี วิทยา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบเครือข่ายผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วน 2 ยี่ห้อลักลอบผสมสารไซบูทรามีน โดยยี่ห้อแรกผลิตในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี วางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ จึงเร่งรวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายและมีไว้ครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า” จนนำมาสู่การจับกุมนางสาว เพ็ญพิชญา (สงวนนามสกุล) สอบถามเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์จริง โดยได้สั่งผลิตผ่าน นางสาว ขวัญพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เริ่มสั่งผลิตครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม 2566 จนถึงปัจจุบันมีการสั่งผลิตสินค้ารวมทั้งหมด 6 ครั้ง

 

 

 

 

 

 

ส่วนอาหารเสริมอีกยี่ห้อ พบว่ามีการอวดอ้างสรรพคุณ ช่วยควบคุมความหิว อิ่มนาน และช่วยลดน้ำหนัก รวมถึงมีส่วนผสมของสารไซบูทรามีน จึงนำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบสถานที่ผลิตอยู่พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังได้นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี อีก 2 จุด เพื่อเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องฐาน “จำหน่าย และมีไว้ครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1” มาดำเนินต่อไป ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท

ด้าน เภสัชกรวีระชัย กล่าวว่า สารไซบูทรามีนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับลดน้ำหนักทั้งแบบแคปซูล และเครื่องดื่มพร้อมชงต่างๆ หากหยุดรับประทาน อาจก่อให้เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ยิ่งในกรณีมีโรคประจำตัว อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า
มัสก์จี้ข้าราชการอเมริกันเขียนรายงานวันๆทำอะไรบ้าง
ผู้ปกครองพา "ด.ช.วัย 13" ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวสอง สร้างไอจีปลอม ลวงทำอนาจาร
"ทักษิณ" เอ่ยขออภัยเหตุการณ์ "ตากใบ" ปี 47 ลั่นไม่ตกใจ เหตุบึ้มรถในสนามบินนราฯ รับลงชายแดนใต้
“ทักษิณ” ลั่นปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องจบในรัฐบาลนี้ ยึดการพูดคุย เป็นแนวทางสร้างสันติสุข
เลขาธิการ สปส. แจงเสถียรภาพ "กองทุนประกันสังคม" ย้ำชัดสิทธิประโยชน์ดีเพิ่มขึ้นทุกปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น