นายกฯ กำชับผบช.ก. ตรวจสอบปม “เรือน้ำมันของกลาง” 3 ลำหาย ลั่นรัฐบาลนี้ไม่ยอมรับเรื่องของเถื่อน Top News รายงาน
จากกรณีเรือของกลางจำนวน 3 ลำ ในคดีน้ำมันเถื่อน หลบหนีจากพื้นที่ควบคุม บริเวณอ่าวสัตหีบ จังหวัดชลบุรีนั้น โดยเรือของกลาง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย 1.เรือ เจ.พี. พร้อมของกลาง น้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 7 คน, 2.เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 6 คน และ 3.เรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 5 คน ได้หายไปจากจุดทิ้งสมอ
โดยสำหรับเรือทั้ง 3 ลำที่หายไปครั้งนี้นั้น เป็นเครือข่ายของ “โจ้ น้ำมันเถื่อน” หรือ “โจ้ ปัตตานี” ซึ่งเป็นขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในภาคใต้ ที่หลบหนีหมายจับคดีน้ำมันเถื่อนหลายคดีอยู่ในต่างประเทศเป็น 3 ใน 5 ลำ ที่ถูกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตรวจยึดและจับผู้กระทำความผิดไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมาได้นำส่งตำรวจน้ำสัตหีบเป็นผู้ควบคุมดูแล
โดยมีรายงานจากทางตำรวจน้ำสัตหีบว่าช่วงดึกของวันที่ 11 มิ.ย. มีพายุลมแรงจึงให้เจ้าของเรือนำเรือทั้งหมดออกไปทอดสมอห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าตำรวจที่เข้าเวรยังมองเห็นเรือดังกล่าวเปิดไฟเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. เรือทั้งหมดได้ดับไฟ จนกระทั่งช่วงเช้าจึงพบว่าเรือหายไปแล้วนั้น
ทั้งนี้ทางด้านพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่าการติดตามเรือทั้ง 3 ลำที่หายไปขณะนี้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกค้นหาทั้งทางเรือและทางอากาศ ทั่วน่านน้ำฝั่งอ่าวไทยทั้งในพื้นที่ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ ตราด หลังมีรายงานจากพลเมืองดีว่าพบเห็นเรือทั้ง 3 ลำ บริเวณเกาะช้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบเรือดังกล่าว คาดพยายามมุ่งหน้าออกจากน่านน้ำฝั่งไทยเข้าสู่ประเทศกัมพูชา และยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง