2 ผัวเมีย ขับรถจยย.พ่วงข้างตระเวนขโมยประตูรั้วสแตนเลสวางถังขยะ อบต.เกาะเรียน ตำรวจรวบตัวได้ทันควัน ผู้การคุมชี้จุดก่อเหตุ

ตำรวจคุมตัว 2 ผัวเมีย ขับรถจยย.พ่วงข้างตระเวนขโมยประตูรั้วสแตนเลส ที่วางถังขยะ ของ อบต.เกาะเรียน ชี้จุดก่อเหตุประกอบคำรับสารภาพ

เมื่อเวลา 17. 00 น.วันที่ 13 มิถุนายน  2567  พล.ต.ต.โชติวัฒน์  เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ  รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย  ร.ต.อ สามารถ   รักษาศักดิ์  รองสารวัตรสอบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้คุมตัวนายสัมฤทธิ์ คงสมแก้ว อายุ 45 ปีและ นางศิริพร  แสงแก้วมณี อายุ 42 ปี สองผัวเมีย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าวัดช่างทอง  หมู่ 1 ตำบลเกาะเรียน   อำเภอพระนครศรีอยุธยา  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   หลังจากที่ทั้งสองได้ร่วมกันกระทำความผิดลักทรัพย์ประตูรั้วสแตนเลสวางถังขยะ ของ อบต.เกาะเรียน  ในพื้นที่ตำบล.เกาะเรียน อำเภอ.พระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 5 จุด

สืบเนื่องมาจากพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเรียน   ได้มีคนร้ายขโมยประตูรั้วสแตนเลส ที่ทางอบต .เกาะเรียน ได้ทำเป็นรั้วล้อมรอบที่วางถังขยะ  วางไว้ตามชุมชน เพื่อป้องกันคนร้าย ที่จะมาขโมยถังขยะ  โดยพบว่าได้ถูกคนร้ายก่อเหตุขโมยประตูรั้วถังขยะ สแตนเลสไปจำนวนถึง 4 ครั้งสร้างความเดือดร้อนและความเสียหาย ให้กับทาง อบต.เกาะเรียน นายศักราช อัมวงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเรียน  จึงได้มอบหมายให้ นิติกรปฏิบัติการสังกัดนิติกรสำนักปลัดนำหลักฐาน ไปแจ้งความ กับพนักงานสอบสวน ไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่มาก่อเหตุ

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังจากนั้น  พล.ต.ต.โชติวัฒน์  เหลืองวิลัย  ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน  สภ .พระนครศรีอยุธยา   ลงพื้นที่หาเบาะแส และ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี   จึงสามารถตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด  และ พบเห็นคนร้ายเป็นชายหญิง 2 คนขี่รถพ่วงข้างโดยมี ของกลางเป็นประตูรั้วสแตนเลส จนทราบว่าผู้ต้องสงสัยคือนายสัมฤทธิ์ คงสมแก้ว  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เชิญตัวนายสัมฤทธิ์ฯ มาสอบสวน ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งนายสัมฤทธิ์ยินยอมมา ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา แต่โดยดี   เพื่อมาทำการสอบปากคำ ระหว่างซักถามศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ข้อหากระทำความผิดลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป  ของที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ในเวลากลางคืน  โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม    สุดท้ายนายสัมฤทธิ์ฯ  ยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับบุคคลตามหมายจับจริง และ ยังสามารถจับกุมตัวนางศิริพร   แสงแก้วมณี  ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นผัวเมียกัน   โดยได้ยอมรับสารภาพว่าบอกว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง  แต่ก่อเหตุเพียงครั้งเดียว และ ของกลางที่ได้นำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าย่านงามเขต เขตพื้นที่ ต.ธนู อ.อุทัย ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท และเงินที่ขายได้นำไปใช้จ่ายในครอบครัวเนื่องจากไม่มีงานทำ  โดยขณะทำแผนผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่ในอาการโศกเศร้าร้องไห้เสียใจและไหว้ขอโทษนายกอบต.เกาะเรียน  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปทำแผนยังที่ก่อเหตุจุดอื่น ก่อนจะนำตัว ดำเนินคดี

ด้านนายศักราช อัมวงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเรียน กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณทางท่านผู้การจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ได้ในครั้งนี้ อย่างทันท่วงที  ความเสียหายของทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่าแสนกว่าบาท ที่ถูกคนร้ายขโมยไป แต่คนร้าย นำไปขายได้เพียงไม่กี่บาท  จึงอยากให้ผู้ที่คิดจะกระทำแบบนี้ให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว  เพราะมันสร้างความเสียหายให้กับ ทางอบต. และตนเองขอมอบของเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนก่อเหตุลักทรัพย์ ซึ่งเป็นของสาธารณะ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนั้นไม่มีวินัยเพราะของเหล่านั้นเป็นของสาธารณะ  เป็นเงินภาษีของประชาชน มักง่าย อยากจะขโมย   เมื่อทางเราเมื่อทราบข้อมูล  จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าว จนสามารถจับกุมตัว 2 คนร้ายซึ่งเป็นผัวเมียได้เพียงไม่กี่วัน    ส่วนของกลางนั้นผู้ต้องหาได้นำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า   ซึ่งจะต้องขยายผล ต่อไปและคงจะต้องดำเนินคดีกับร้านรับซื้อของเก่าในข้อหารับซื้อของโจรต่อไป    ส่วนผู้ที่คิดจะก่อเหตุขโมยของหลวง ให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวเพราะเพราะอัตราโทษสูง  ทางตำรวจนั้นไม่ปล่อยให้ลอยนวลหรือไปก่อเหตุซ้ำ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแน่นอน

เกียรติยศ  ศรีสกุล ผอ.ข่าวTOPNEWS ภาคกลาง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP) จ.ชลบุรี นำแรงงานกว่าพันคนรวมตัวหน้าสถานฑูตเกาหลี วอนจี้ผู้รับเหมา จ่ายเงินค้างค่าแรงกว่า 6,000ล้านบาท
“อดีต สส.มานิตย์” ดึง  “อดีตนายกเล็กเมืองชล” เข้าซุ้มบ้านใหญ่ “เรารักชลบุรี” หนุน “นายกเอก ฉัตรชัย ชิงเก้าอี้ ” นายกนครบ้านสวน
ไล่ล่า! สองโจรต่างชาติ กระชากสร้อยหนุ่มอินเดีย ขณะขี่รถพาเพื่อนท่องราตรีพัทยา
“ทหารใต้” เฉียบ! เปิดกลศึกสยบชายแดน “ไทย-ไทใหญ่” ร่วมรบบุกตีแตก “ทัพว้า”
2 พระบัณฑิตใหม่แดนใต้ แสดงมุทิตาจิตต่อ ครู อาจารย์ ณ จิตตภาวันวิทยาลัยสงฆ์
วงจรปิดจับภาพสองผัวเมียคราบโจรบุกร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางขโมยถังแก๊ส 3 ถังแถมใช้ไม้ปัดกล้องวงจรปิดหนีแม่ค้าเผยเศรษฐกิจไม่ดีถึงขนาดโจรขโมยถังแก๊ส
คปสอ.ท่ามะกา จัดโครงการ "พัฒนาศักยภาพแกนนำสุขภาพและเครือข่ายสู่การดำเนินงานตำบลจัดการคุณภาพชีวิตและชุมชนรอบรู้ด้านสุขภาพอำเภอท่ามะกา"
“สุนทร” เปิดปากเล่านาที “สจ.โต้ง” ถูกยิงดับคาบ้าน
“ทนายดัง” วอนนอนคุก โพสต์แซะ “วันพ่อ” โซเชียลแห่เมนต์ให้ “ค.” พรึ่บ
ไทยดูไว้! “มาเลย์” โคตรโหด-ตร.พรึ่บชายแดน ตะปบ “ต่างด้าว” ยัดคุกไม่เลี้ยง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น