เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 2 ส่วนแยก 2 กองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คณะเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แนงมุด จ.สุรินทร์ ร่วมกันตรวจยึดไม้พะยูงท่อน และแปรรูป 117 ท่อน/เหลี่ยม/ชิ้น ปริมาตร 0.886 ลบ.ม. มูลค่าเกือบ 300,000 บาท พร้อมเลื่อยโซ่ยนต์ 2 เครื่อง และอุปกรณ์แปรรูปไม้หลายรายการสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนหาข่าวขยายผลจากการจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้จากเขตพื้นที่ ต.ตาเบา อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กระทั่งทราบว่ามีการนำไม้พะยูงที่ลักลอบตัดมาเตรียมนำส่งให้ผู้รับซื้อในพื้นที่ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ คณะเจ้าหน้าที่นำโดยร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม รอง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ สนธิกำลังนำหมายค้นศาลจังหวัดสุรินทร์ ค้นบ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 7 ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บริเวณกระท่อมห่างจากบ้าน 30 เมตร ที่นายพิชัย พักอาศัย
ข่าวที่น่าสนใจ
พบอุปกรณ์แปรรูปไม้ ได้แก่ เลื่อยโซ่ไฟฟ้าดัดแปลง เลื่อยโซ่ยนต์เบนซิน กบไสไม้ไฟฟ้า ขวาน สายไฟ ชุดประแจ น้ำมันเบนซิน น้ำมันดำ รอบกระท่อมพบไม้พะยูงแปรรูปกองรวมกันอยู่บริเวณโรงเก็บฟางห่างจากบ้าน 50 เมตร 112 ท่อน/เหลี่ยม และพบไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ในสระน้ำ 2 ท่อนสอบถาม น.ส.จิราพร อายุ 44 ปี ผู้ดูแลบ้าน เบื้องต้นให้ปากคำว่า พักอาศัยอยู่ที่บ้านนี้จริงๆ และเป็นพี่สะใภ้ของนายพิชัย ที่ขอมาพักอาศัยนอนที่กระท่อมดังกล่าวได้ประมาณครึ่งปี และมีพฤติกรรมในการตัดไม้ และรับซื้อไม้พะยูงในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์นำมาเก็บไว้แปรรูปส่งขาย แต่ไม่ทราบว่าขายให้ใคร และขณะที่พักนอนอยู่นั้นจะมีรถขนไม้เข้ามาเป็นประจำ และไม่ทราบว่าไม้พะยูงที่ขนมานั้นผิดกฎหมาย เนื่องจากนายพิชัย บอกว่าเป็นไม้ที่รับซื้อมาจากที่ดินมีโฉนด มีเอกสารถูกต้องผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเข้าตรวจคนไม่พบนายพิชัย และไม่มีเอกสารโฉนดตามที่กล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) โดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 48 ฐาน “มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 69 ฐาน “มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 70 “ซ่อนเร้นจำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาจากการกระทำผิด” ผิดตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 ฐาน “มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนายทะเบียน”
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไม้พะยูงและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด พร้อมบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแนงมุด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปทั้งนี้กลุ่มขบวนการลักลอบทำไม้พะยูงและสวมเอกสารสิทธิที่ดิน เป็นกลุ่มขบวนการลักลอบทำไม้ขนาดใหญ่ทางภาคอีสานที่จะลักลอบทำไม้ รวบรวมไม้นำมาซุกซ่อน และแปรรูปรอส่งจำหน่ายให้พ่อค้าชาวต่างชาติ โดยหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) สืบสวนขยายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 อย่างต่อเนื่อง พบว่าคดีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบทำไม้พะยูงข้ามชาติ เครือข่าย “มู่หลาน” ที่ได้มีการจับกุมและตรวจยึดไม้พะยูงจำนวนมาก ที่มีการซุกซ่อนในกระท่อมและสระน้ำ ท้องที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2566 โดยพบมีการนำแสดงเอกสารสิทธิที่มีลักษณะเจ้าหน้าที่ภาครัฐมีความเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกในการจัดเตรียมเอกสารเพื่อการตรวจสอบ ทั้งนี้เอกสารดังกล่าว เป็นเอกสารที่มีการจัดเตรียมไว้ ซึ่งเป็นไม้ที่อยู่ในโฉนดที่ดิน และสามารถตรวจสอบตอได้ ซึ่งอาจมีการนำเอกสารมาหมุนเวียนไว้เพื่อตบตาการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง