AFP และรอยเตอร์สรายงานว่านายเหอ ย่าตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนออกมาแถลงเตือนเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 13 มิย.) ว่าจีนอาจใช้สิทธิ์ยื่นฟ้อง WTO กรณีสหภาพยุโรปประกาศประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์อีวีของจีนเป็น 38% โดยจะเริ่มบังคับใช้ 4 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้นายเหอตำหนิว่าการขึ้นภาษีนำเข้ารถอีวีจีนเป็นการละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศและพฤติกรรมกีดกันการค้า ซึ่งนอกจากจะเป็นผลร้ายต่ออุตสาหกรรมรถอีวีจีนแล้ว ก็ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และระบบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก รวมทั้งของอียูเอง และว่านอกจากจีนอาจยื่นฟ้อง WTO แล้ว จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของภาคธุรกิจจีนด้วย
วันพุธที่ผ่านมา (12 มิย.) อียูออกมาประกาศจะขึ้นภาษีรถอีวีจีน โดยกำหนดอัตราภาษีที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจำนวนเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีน เช่น 17.4% สำหรับรถ BYD, 20% สำหรับแบรนด์จี๋ลี่ และ 38.1% สำหรับเอสเอไอซี ซึ่งอัตราภาษีนำเข้าใหม่นี้จะเริ่มใช้ในเดือนกรกฎาคมนี้ ยกเว้นเสียแต่ 65% ของชาวอียูจะมีมติคัดค้าน
ทั้งนี้ อียูอ้างเหตุผลว่ารัฐบาลจีนใช้มาตรการอุดหนุนผู้ผลิตรถอีวี ทำให้เกิดความไม่ธรรมต่อผู้ผลิตรถยนต์ของสมาชิกอียู ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นรถเครื่องยนต์สันดาบ นอกจากนี้อียูยังกล่าวหามาตรการทุ่มตลาดของจีนด้วย
ด้านสื่อจีนออกมาเตือนว่าจีนอาจตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์นมจากอียู โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นมซึ่งอียูถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ไปยังจีน รองจากนิวซีแลนด์ ทำเอาบริษัทผู้ผลิตทั่วอียูต่างพากันตื่นตระหนกและแสดงความวิตกว่าอาจจะเจอมาตรการตอบโต้จากจีน