“ไพบูลย์” บุกเดี่ยวร้องศาลรธน. ยกเลิก MOU 44 หวั่นเสียแหล่งปิโตรเลียมให้ “กัมพูชา”

“ไพบูลย์” บุกเดี่ยวร้องศาลรธน. ยกเลิก MOU 44 หวั่นเสียแหล่งปิโตรเลียมให้ “กัมพูชา”

Top news รายงาน ยังคงเป็นประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ทางทะเลกับกัมพูชา บริเวณเกาะกูด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีนักวิชาการหลายคนออกมาประสานเสียงว่า เกาะกูดเป็นของไทย และเป็นมานานมากแล้วด้วย ไม่จำเป็นต้องมีการเจรจา พร้อมงัดหลักฐานทางประวัติศาสตร์มายืนยันกันเพียบ

 

ล่าสุด นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะบุคคลหนึ่งของปวงชนชาวไทย ต้องการปกป้องเขตอธิปไตยทางทะเล บริเวณเกาะกูดอ่าวไทย เนื้อที่ 26,000 ตารางกิโลเมตร และผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติ มูลค่า 20 ล้านล้านบาทของไทย ในทะเลอ่าวไทย ตามสิทธิ์ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากมีการทำ “MOU 2544” ที่ทำขึ้นโดยขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ นำมาใช้เป็นเครื่องมือ ดำเนินการแบ่งเขตอธิปไตยของไทย ทางทะเลอ่าวไทย และแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติในทะเลของไทย ให้แก่กัมพูชา

 

ไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้สร้างสารพัดวีรกรรม “ส.ส. ปัดเศษ-นักร้อง-ซามูไร” ก่อนศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดสถานภาพ ส.ส. - BBC News ไทย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยก่อนยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยฉบับนี้ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 67 ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อพิจารณายื่นคำร้องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และหากผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายในเวลา 60 วัน นับแต่วันที่รับคำร้อง ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 8 มิถุนายน 2567 ผู้ร้องจะมีสิทธิ์ยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ปรากฎว่าผู้ตรวจการแผ่นดินยังไม่ได้ดำเนินการยื่นคำร้องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ร้องจึงใช้สิทธิ์ยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เพื่อขอให้มีการพิจารณาวินิจฉัย ดังนี้

1.ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยว่า การกระทำของกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ซึ่งเป็นผู้ถูกร้องที่ 1 และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ถูกร้องที่ 2 ในการนำ “MOU 2544” ที่ทำขึ้นโดยขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาใช้เป็นเครื่องมือดำเนินการแบ่งเขตอธิปไตยของไทย ทางทะเลอ่าวไทย และแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติทางทะเลของไทย ให้แก่กัมพูชา เป็นการกระทำละเมิดสิทธิ์ของผู้ร้อง ในฐานะปวงชนชาวไทยคนหนึ่ง

2. ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยว่า บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชา อ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน พ.ศ.2544 หรือ “MOU 2544” เป็นหนังสือสัญญา ที่กระทำการโดยไม่ได้ขอความเห็นชอบของรัฐสภา จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งใช้บังคับไม่ได้ ต้องตกเป็นโมฆะทั้งฉบับตั้งแต่เริ่มแรก ตามหลักการเรื่อง “ความไม่สมบูรณ์แห่งสนธิสัญญา” ซึ่งบัญญัติไว้ในอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยกฏหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969

3. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสอง เลิกการนำ “MOU 2544” มาใช้เป็นเครื่องมือดำเนินการแบ่งเขตอธิปไตยของไทย ทางทะเลอ่าวไทย และแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติทางทะเลของไทย ให้แก่กัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการจัดเสวนาเรื่อง ขุมทรัพย์ – อธิปไตย ต้องเจรจาอย่างไร ผลประโยชน์จึงจะเป็นของคนไทย ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา โดย นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา ระบุว่า หลักเขตที่มีปัญหามากที่สุด คือหลักเขตที่ 73 ที่มีการเคลื่อนย้ายที่ พอเคลื่อนย้ายที่ กัมพูชาจึงเคลื่อนจุด กินเข้ามาในดินแดนไทย แล้วยึดโยงเส้นนั้นไปในไหล่ทวีป คือเส้นที่เรามีปัญหาคือปี 2515 พอมา MOU44 สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ก็มีการไปลงนาม รองรับเส้นแบ่งเขตที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ เส้นเก๊ คือใช้ หลักเขตที่ 73 ยิงผ่านกลางเกาะกูด แล้วไหลลงไปในอ่าวไทย จึงเป็นเส้นที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ จนมีการอ้างสิทธิ์เป็นพื้นที่ทับซ้อน ทั้งนี้ อยากจะบอกคนไทยว่าเกาะกูดเป็นเพียงตัวหลอกเท่านั้น เพราะตัวจริงที่มีค่าไปกว่านั้นคือขุมทรัพย์ 20 ล้านล้านในอ่าวไทย

ส่วนประเด็นที่ว่าหากกัมพูชาไปฟ้องศาลโลกนั้น นายเทพมนตรี กล่าวว่า ตนมีความกังวลอย่างมาก และกลัวว่าอาจซ้ำรอยเหมือนกับกรณีเขาพระวิหาร เพราะเมื่อใดที่กัมพูชาร้องไปยังเวทีโลก สปอร์ตไลท์ก็จะฉายไปที่กัมพูชา เพราะผลประโยชน์ของกัมพูชา มีบรรดาประเทศมหาอำนาจ เข้าไปหาผลประโยชน์รอไว้แล้ว เราอาจจะถูกโลกบีบได้

ขณะที่ นายคํานูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวเสริมว่า ถ้ารัฐบาลยืนยันเดินตาม MOU44 แล้วต้องการที่จะแก้ไข หรือจะจัดทำ MOU ฉบับใหม่ ตนขอให้นำกรอบการเจรจา เข้ามาขออนุมัติกับทางรัฐสภา ว่าจะไปเจรจาอย่างไร เพื่อความชัดเจนโปร่งใสมากที่สุด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รวมพลคนสายบุญ ร่วมกับ สบายดีช่อผกาอินเตอร์กรุ๊ป จัดกิจกรรมปันรอยยิ้มให้น้อง ปี 3
"สาวอบต.บุรีรัมย์" ช็อก ตร.ตามตัวถึงบ้าน ปมรับเงินโอน "เจ๊อ้อย" 39 ล้าน แจงยิบไม่รู้จักมาก่อน
ตำรวจนำตัว "เต้ย" มือตบ "ทนายธรรมราช" ฝากขัง ยันไม่มีคนจ้างแค่บันดาลโทสะ
"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "หอการค้า-บริษัทธุรกิจญี่ปุ่น" ชี้ชวนขยายลงทุนในไทย
"ทนายเดชา" เตือนนักร้องเรียน ระมัดระวังปาก ร้องเรื่องไม่มีสาระ กลั่นแกล้งคนอื่น จนเป็นเหตุให้ถูกทำร้าย
กทม.จ่อบังคับฝังชิป "สุนัข-แมว" ห้ามเลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนด พร้อมคุมสุนัขพันธุ์ดุเป็นพิเศษ
"ดร.ศักดิ์ณรงค์" จี้รบ.ต้องยกเลิก MOU 44 โดยเร็ว หวั่นเสียอาณาเขตอธิปไตย ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เขาพระวิหาร
“เจ๊อ้อย” รับใจสลาย ยันไม่ได้ให้เงิน 71 ล้านบาทโดยเสน่หา ลั่นไม่มีเจรจายอมความ ดำเนินคดีถึงที่สุด
ระทึก เกิดไฟช็อตสายไฟ ลามเข้าบ้านเผาวอดทั้งหลัง เจ้าของบาดเจ็บ ตร.เร่งหาสาเหตุ
"กรมอุตุฯ" เผยเตรียมรับมืออากาศหนาว เตือน 29 จว. ฝนฟ้าคะนอง กทม.ฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น